เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2568 ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ มูลนิธิกระจกเงาได้นำครอบครัวกอไธสง เดินทางมารับร่างของ น.ส.ภาวิณี กอไธสง หรือ น้องเก๋ อายุ 23 ปี เพื่อนำกลับไปประกอบพิธีฌาปนกิจที่บ้านเกิดใน อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์
ภายในงาน พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) เดินทางมาร่วมแสดงความเสียใจและมอบเงินช่วยเหลือครอบครัว พร้อมกล่าวว่า ตนติดตามคดีนี้มาตั้งแต่ปี 2562 และยินดีที่อย่างน้อยครอบครัวได้ร่างผู้เสียชีวิตกลับคืนบ้าน พร้อมชื่นชมมูลนิธิกระจกเงาและสถาบันนิติเวชที่ช่วยผลักดันคดีคนหายด้วยวิทยาศาสตร์นิติวิทยา
กรณีดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2556 หลังน้องเก๋เรียนจบจากมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ และเดินทางไปหางานทำที่โรงงานย่านแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ก่อนจะขาดการติดต่อกับครอบครัวอย่างลึกลับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2556 พ่อแม่และมูลนิธิกระจกเงาจึงออกติดตามเบาะแสอย่างต่อเนื่อง
นายวิโรจน์ กอไธสง บิดาของน้องเก๋ เปิดเผยว่า เคยลงพื้นที่ตามหาลูกด้วยตัวเองที่ห้องเช่าใน จ.ชลบุรี ซึ่งยังพบเสื้อผ้า และเอกสารสำคัญอยู่ครบถ้วน รวมทั้งสอบถามจากเพื่อน และชายหนุ่มที่คบหากัน แต่ทุกฝ่ายต่างปฏิเสธไม่รู้เห็น ขณะที่เบาะแสสุดท้ายคือวันหนึ่งน้องเก๋โทรหาเพื่อน ขอให้ไปส่งริมถนนใกล้มอเตอร์เวย์ โดยบอกเพียงว่าจะติดรถคนรู้จักเข้ากรุงเทพฯ ก่อนหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
ตลอด 12 ปี มูลนิธิกระจกเงาได้พยายามตามหามาโดยตลอด ทั้งการลงพื้นที่ตรวจสอบร่างผู้เสียชีวิตนิรนามในหลายจังหวัดภาคตะวันออก แต่ผลการตรวจดีเอ็นเอไม่ตรงกับรายใด กระทั่งต้นปี 2568 ได้มีการเก็บดีเอ็นเอของมารดาน้องเก๋อีกครั้ง และส่งตรวจที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งพัฒนาฐานข้อมูลร่างผู้เสียชีวิตนิรนามให้สามารถตรวจเทียบได้อย่างครอบคลุม
ผลการตรวจพบว่า ดีเอ็นเอของมารดามีความสัมพันธ์ทางสายโลหิตแบบแม่และลูกกับโครงกระดูกหญิงนิรนามที่ถูกพบในเดือนเมษายน 2557 กลางทุ่งนาป่าปรือ ถนนขุมทอง-ลำต้อยติ่ง เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ท้องที่ สน.จรเข้น้อย โดยในขณะนั้นชาวบ้านได้จุดไฟเผาป่าเพื่อล่าหนูนา ก่อนพบร่างผู้เสียชีวิตเหลือเพียงโครงกระดูก
ร่างผู้เสียชีวิตดังกล่าวถูกนำไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวชวิทยา ก่อนจะนำไปฝังไว้ที่สุสานร่างผู้เสียชีวิตนิรนามใน จ.ชลบุรี จนกระทั่งผลตรวจดีเอ็นเอยืนยันตัวบุคคลได้ จึงมีการประสานครอบครัวเดินทางมารับกลับบ้าน
กระทั่งล่าสุด เมื่อวันที่ 24 กันยายน ที่ผ่านมา ครอบครัวกอไธสง นำโดยนายวิโรจน์ พร้อมญาติพี่น้อง ได้เดินทางมายังจุดที่พบร่างผู้เสียชีวิตเพื่อจุดธูปเชิญวิญญาณกลับบ้าน โดยนายวิโรจน์กล่าวทั้งน้ำตาว่า ขอให้เก๋กลับบ้านเรา พ่อมารับแล้ว พร้อมยืนยันไม่เชื่อว่าลูกสาวจะเสียชีวิตด้วยตัวเอง แต่น่าจะถูกฆาตกรรมอำพราง และอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามผู้กระทำผิดมารับโทษ หลังลอยนวลมาแล้วกว่า 12 ปี
สำหรับผลการชันสูตร ไม่สามารถระบุสาเหตุการเสียชีวิตได้อย่างชัดเจน แม้มีการสันนิษฐานว่าอาจเป็นการฆาตกรรม ซึ่งอาจสร้างอุปสรรคต่อการขอรับเงินเยียวยาตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา แต่ครอบครัวก็ย้ำว่าความหวังสูงสุดคือการตามหาความยุติธรรมให้กับน้องเก๋