เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาชน อภิปรายพาดพิงว่ามีความสัมพันธ์รู้จักกับ เบน สมิธ ที่อาจเป็นหัวขบวนของแก๊งสแกมเมอร์ ว่า ฟ้องแน่นอน เวลานี้มีคดีอยู่ที่จังหวัดพะเยามากกว่า 270 คดี ซึ่งรวมถึงนักการเมืองด้วย สิ่งที่คุณพูดคุณเอาจากข่าว ซึ่งข่าวมาจากการทะเลาะระหว่างกลุ่มพลังงานด้วยกันเอง จึงขอตั้งคำถามว่าไปรับงานใครมาหรือไม่ เอาข่าวที่ชาวต่างชาติเขียน มาขยายความ ตนเองรู้ที่มาที่ไปทั้งหมด การนำภาพตนกับอดีตนายกรัฐมนตรี และชาวต่างชาติไปนั่งรับประทานอาหารร่วมกัน หรือเอารูปที่ตนเองทำบุญไปเผยแพร่ ก็แสดงว่าตนเองไปทำความดี ทำบุญก็เอามาลงเป็นตุเป็นตะ
โดยที่บอกว่า ผมมีรายได้จากธุรกิจสีเทา พูดผิดแล้ว เวลาทำงานกับตนเองก็ชื่นชม เวลาแบบนี้ก็นั่งเทียนเขียนข่าว ชีวิตตนเองมีอาชีพชัดเจน ก่อนมาทำอาชีพนักการเมืองก็เสียภาษีถูกต้อง รายได้ทุกบาททุกสตางค์ก็เสียภาษีหมด สำแดงได้หมด ดังนั้นอย่าเอามาพูดอีก เพราะตนเองจะไม่ฟ้องคดีอาญาอย่างเดียว แต่จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายด้วย ทราบว่าผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบก็จะฟ้องหลักพันล้านเช่นกัน ปากกล้าขาสั่น อย่ามาเล่นกับผม ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
ต่อมาเมื่อมีการถามว่าจะเดินหน้าฟ้องนายรังสิมันต์ โรม ใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ทำอยู่แล้ว ทุกคนที่พูดในสภาฯ คอมเมนต์ทำให้ตนเองเสียหาย ฟ้องร้องไปแล้วร้อยกว่าคดี ขออย่าทำกัน ซึ่งในส่วนของสาเหตุที่ทำให้ประชาชนเข้าใจว่าเกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์ ร.อ.ธรรมนัส อุทานว่า สแกมมเมอร์จะบ้าหรือไง คนอย่างผมไปยุ่งกับสแกมเมอร์ พร้อมกล่าวต่อว่า รู้หรือไม่ที่จับสแกมเมอร์ ตนเองก็อยู่เบื้องหลังประสานตำรวจไซเบอร์ คุณไม่รู้จริงก็พูดกันไปเรื่อย เป็นเพราะคุณรับงานใครมา
ขณะเดียวกันเมื่อถามว่าไม่รู้จักกับบุคคลที่เขาพาดพิงใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ตอบว่า คุณรู้หรือยังเขาไปทำอะไรผิด เขาทำธุรกิจ ธุรกิจเขาเสียหายทั้งภายในและต่างประเทศ คุณเอาข่าวมั่วมาขยายความ เดี๋ยวจะเดือดร้อน เอาตัวให้รอดก่อนเถอะ และในส่วนกรณีที่คณะกรรมมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ สภาผู้แทนราษฎร เตรียมเชิญเข้าไปชี้แจงต่อกรณีดังกล่าว ร.อ.ธรรมนัส กล่าวด้วยเสียงแข็งว่า เชิญสิครับ พร้อม คุณเตรียมตัวก็แล้วกัน สำนักข่าวที่นำเสนอแบบผิด ๆ จะได้ข้อมูลที่ถูกต้อง แล้วคุณจะกลับหลังหันไม่ทัน
นอกจากนี้ เมื่อถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เสียศักดิ์ศรีหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ตอบว่า ถ้าตนเองไม่เกี่ยวข้องก็ไม่เสียศักดิ์ศรีอาชีพ ตนเองไม่เคยคุมซ่อง คุมบาร์ เพราะตนค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลมาก่อน ผิดตรงไหน เห็นว่าโจมตีตนเองแล้วก็ขายได้ทำให้หล่อขึ้นสวยขึ้น ยอมรับว่าไม่หนักใจกับข่าวในขณะนี้ เพราะชีวิตผ่านมาเยอะแล้ว
ทั้งนี้ ร.อ.ธรรมนัส ยืนยันว่าไม่ได้โกรธ เมื่อคุณกล้าสู้กับตนเอง คุณก็ต้องพร้อมไปกินข้าวเย็นที่พะเยา พร้อมไปขึ้นศาลพะเยา อย่ามาขอโทษ และขอให้ตนเองถอนฟ้อง ไม่เอานะ คนบางคน และในช่วงท้ายของการสัมภาษณ์ ร.อ.ธรรมนัส ได้กล่าวกับสื่อมวลชนว่า ที่เสียงดังเพราะอยากจะอธิบายว่า ผ่านอะไรมาเยอะแล้ว ดังนั้นการเอาเรื่องที่ไม่จริงมาพูด คุณต้องพร้อมรับชะตากรรมที่เกิดขึ้น