หลังจากที่ ศาลอาญา อ่านคำพิพากษา ในคดีดูหมิ่นสถาบันฯ หมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยในความผิดฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112และความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560
จากกรณีการให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศเมื่อปี 2558 ซึ่งนายทักษิณ เดินทางมาฟังคำพิพากษาด้วยตนเอง ภายหลังศาลอ่านคำพิพากษาเกือบ 1 ชั่วโมง
ทนายวิญญัติ เผยว่า ศาลมีคำวินิจฉัยว่า การทำคลิปให้สัมภาษณ์ที่เต็มหรือมากกว่าคลิปวิดีโอ เป็นเพียงบางส่วนของคำให้สัมภาษณ์ซึ่งมีถ้อยคำที่จำกัด ซึ่งศาลเชื่อว่ามีคำสัมภาษณ์จริงที่มีมากกว่านี้ คลิปที่มีมาเป็นเพียงบางส่วนโดยโจทก์ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าคลิปตัดต่อหรือไม่ และคำพูดของจำเลย
ไม่ได้เจาะจงถึงพระมหากษัตริย์ จึงยกผลประโยชน์ให้จำเลย พิพากษายกฟ้อง หลังศาลยกฟ้อง นายทักษิณ ยิ้ม และกล่าวขอบคุณทีมทนายความ พร้อมบอกว่า ต่อจากนี้จะได้ทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติให้เต็มที่
ล่าสุดในวันเดียวกัน (22 สิงหาคม 2568) ด้าน ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ยังได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ทนายคลายทุกข์ ถึงประเด็นนี้ว่า หลายคนตั้งคำถามว่าอัยการฟ้องคดีคุณทักษิณหลักฐานไม่เพียงพอแล้วฟ้องทำไม?
และยังคอมเมนต์ใต้โพสต์อีกว่า อัยการจะออกคำสั่งฟ้องคดีอาญาต่อเมื่อมีพยานหลักฐานมีมูลเพียงพอที่จะฟ้อง
ในอนาคตกำลังแก้กฎหมายอัยการจะฟ้องคดีอาญาได้ต่อเมื่อต้องแน่ใจว่ามีพยานหลักฐานเอาผิดลงโทษจำเลยได้จึงจะฟ้องได้
เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิ์ประชาชนไม่ให้กลั่นแกล้งประชาชนคดีไหนเอาผิดไม่ได้ก็ไม่ควรฟ้องฟ้องไปก็แพ้ก็ดี
ท่ามกลางชาวเน็ตที่แห่เข้ามาคอมเมนต์กันสนั่น
คอมเมนต์ชาวเน็ต