
เฟิร์น Wealth me up เผยธุรกิจไทยตอนนี้ เดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า แย่กว่าทุกครั้งที่ผ่านมา คนรวยยังเอาลูกออกจาก รร. อินเตอร์
ต้องบอกว่าเรื่องที่หลายคนได้รับผลกระทบอย่างมากเลยทีเดียว สำหรับเศรษฐกิจของประเทศในตอนนี้ หลังจากที่หลายคนมองว่า หากพ้นช่วงโควิด-19 ไป ล่าสุด วันที่ 18 ธ.ค. 2567 คุณเฟิร์น ศิรัถยา อิศรภักดี จากช่อง Wealth me up อินฟลูเอนเซอร์ด้านการเงินและการลงทุน ได้ออกมาพูดถึงเศรษฐกิจไทยในช่วงนี้ ระบุว่า ตอนนี้เศรษฐกิจไทยแย่มากจากบนลงล่าง คือ
- ธุรกิจขนาดเล็ก-กลาง ถูกคู่ค้าทั้งเล็กกลาง ใหญ่ เลื่อนจ่ายเงิน บางคนโดนหลายเดือน บางคนโดนหลายปี จนธุรกิจขาดสภาพคล่อง บางธุรกิจไปต่อไม่ได้
- องค์กรขนาดใหญ่ ในประเทศหลายอุตสาหกรรมลงทุนมหาศาลทั้งในและต่างประเทศกับโครงการที่คิดว่าจะเป็นอนาคต แต่ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามคาด และเริ่มกระทบผลการดำเนินงานและการจ้างงาน
- คนทำสื่อทั้งเบื้องหน้า เบื้องหลัง ออนไลน์ และทีวี ล้วนแล้วแต่งานหดเงินหาย แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในหลายสิบปี บ้างโดนลดเงิน งานน้อย ไม่มีงาน และหนักสุดถึงขั้นให้ออกมากกว่าที่เราเห็นว่าเป็นข่าว
- ฟ้าฝนในหลายพื้นที่ไม่ตกต้องตามฤดูกาล บางที่น้ำไม่เคยท่วมก็ท่วม ฝนไม่เคยตกก็ตก หน้าหนาวก็ฝนตก ร้อนแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน พืชผลทางการเกษตรที่คาดการณ์ยากอยู่แล้วยิ่งเสียหายหนัก
- ผู้ปกครองโรงเรียนนานาชาติที่ส่วนใหญ่ทำธุรกิจส่วนตัวต้องให้ลูกหลานออกจากโรงเรียน เพราะธุรกิจมีปัญหาและจ่ายค่าเทอมไม่ไหว
- ร้านอาหารระดับบนที่ปกติต้องจองล่วงหน้าคิวเต็มตลอดปีใหม่ ปีนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว จนถึงวันนี้ลูกค้าน้อยมาก แทบไม่มีใครจองเข้ามาแม้จะเป็นช่วงเทศกาล
- บางแบรนด์หรูที่ไม่เคยร่วมแคมเปญใด ๆ ปีนี้ยอดขายไม่เป็นไปตามคาด ต้องเขาร่วมโปรโมชั่นครั้งแรก
สรุปจะล่าง-กลาง-บน ทุกคนบอกตรงกันว่า เหนื่อย บ้างบอกว่าแย่กว่า COVID-19 บ้างบอกว่าเหนื่อยกว่าปี 2540 (ตอนนั้นเจ็บแต่จบ) เศรษฐกิจ-ธุรกิจไทยรอบนี้ค่อย ๆ ซึม ค่อย ๆ แย่ลง ๆ เจ็บน้อย แต่เจ็บนาน และไม่รู้จะจบเมื่อไหร่ เหมือนกำลังเป็น กบที่ถูกต้ม
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไปแล้วนั้น ก็ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นอย่างมาก บางคนได้ออกมาเผยว่า แม้เศรษฐกิจไทยเป็นแบบนี้ แต่แพลตฟอร์มออนไลน์กลับทำกำไรมากทุกปี คนไทยกำลังโดนปล้นเงินออกนอกประเทศ ร้านค้าออนไลน์มีแต่ร้านจีนที่เงินไหลออกแต่ไม่มีภาษีกลับมา ไทยเสียดุลการค้าอย่างหนัก การเข้ามาของทุนจีนส่งผลเสียมากกว่าได้ในทุกอุตสาหกรรม และรัฐบาลกำลังหลับตาข้างเดียวอยู่
ในขณะที่บางคนบอกว่า ตลาดระดับล่างเงียบเหงามาก จากที่คนออกมาจ่ายตลาดทุกวัน คนกลับซื้อแค่ที่จำเป็น รีบซื้อรีบกลับบ้าน ต้นทุนก็สูง ค้าขายก็ไม่ได้ หากขายถูกก็อยู่กันไม่ได้นาน เงิน 10,000 ที่แจกมาก็ละลายหายไปในอากาศ ไม่ถูกนำมาเข้าระบบเท่าที่ควร เงินใช้หมดแล้วก็สูญเปล่า ไหลออกไปซื้อของตามแอปฯ ต่าง ๆ วันละหลายร้อยล้านบาท เหมือนแผลใหญ่ที่มีเลือดไหลไม่หยุดแต่เราไม่ห้ามเลือด แต่กลับเติมเลือดลงไปแล้วบอกว่าเราสบายดี กว่าจะรู้ตัวก็กำลังจะตายกันแล้ว
ข้อมูล Siratthaya Isarabhakdi