เรียกได้ว่าคลี่คลายไปได้ระดับหนึ่งเเล้ว สำหรับกรณีการเสียชีวิตของ นัทปง หรือ นัท ณัฐวุฒิ ปงลังกา นักข่าวชื่อดัง หลังตำรวจฝ่ายสืบสวนร่วมกับเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 นำตัว นาย ก. หรือ นายกิตติ ออกจาก สภ.บางกรวย เข้าตรวจค้นบ้านพักและร้านทองที่ทำงานอยู่ในย่านบางแค กรุงเทพฯ เพื่อเก็บตัวอย่างสารต้องสงสัยมาเปรียบเทียบกับสารไซยาไนด์ของกลาง ภายหลังเจ้าตัวรับสารภาพว่าเป็นผู้ส่งมอบสารดังกล่าวให้กับนัทปงจริงก่อนเกิดเหตุสะเทือนขวัญ

พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผยว่า จุดสำคัญของการรับสารภาพคือ นายกิตติอ้างว่า ทั้งตนและผู้เสียชีวิต ตกลงให้สารกันเอง โดยไม่ได้มีการซื้อขาย และมีการมอบไซยาไนด์ให้ปริมาณประมาณ 2 ช้อนชา เมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยส่งมอบกันที่บ้านพักของนัทปงในเวลาที่ผู้เสียชีวิตไม่อยู่ ซึ่งตำรวจได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดย้อนหลังและพบหลักฐานยืนยันเหตุการณ์ดังกล่าว อย่างไรก็ดี มูลเหตุของการส่งมอบสารยังไม่เปิดเผย เนื่องจากอยู่ระหว่างการสืบสวนรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม
โดยในวันที่ 11 ธันวาคม ที่จะนี้ ตำรวจจะเข้าตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุอีกครั้งร่วมกับญาติ เพื่อเปรียบเทียบปริมาณไซยาไนด์ที่พบ รวมถึงพิจารณาข้อมูลจากแพทย์ผู้ชันสูตรพลิกร่าง และผลการชันสูตรอย่างเป็นทางการ เพื่อยืนยันสาเหตุการเสียชีวิตให้ชัดเจน
พยานทั้ง 5 ราย ที่เคยถูกเชิญมาสอบก่อนหน้านี้ให้ข้อมูลเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และมีทิศทางสอดคล้องกัน แม้มีแนวโน้มว่าผู้เสียชีวิตอาจพยายามทำร้ายตัวเอง แต่ตำรวจยืนยันว่า ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งกรณีทำร้ายตัวเองหรือมีบุคคลอื่นเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการตรวจสอบกล้องวงจรปิดหลายมุมที่ต้องนำมาวิเคราะห์ประกอบกัน
อีกประเด็นที่ตำรวจให้ความสำคัญ คือ มีใครพยายามนำหลักฐานออกจากบ้านหรือไม่ หากพบการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย จะถูกดำเนินคดีทันที นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่รับว่ามีความบกพร่องบางส่วนในการตรวจที่เกิดเหตุครั้งแรก และจะนำข้อเสนอแนะมาปรับปรุงในอนาคต หลังการตรวจค้นบ้านและร้านทองเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่จะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาแก่นายกิตติ ในความผิด ครอบครองวัตถุออกฤทธิ์อันตรายประเภท 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 700,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หลังได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว นายกิตติให้สัมภาษณ์กับสื่อเป็นครั้งแรก โดยย้ำว่าไม่ได้หลบหนีตามที่หลายคนเข้าใจ แต่เพิ่งเดินทางกลับจากจังหวัดเชียงรายหลังไปร่วมงานศพนัทปง จึงไม่สามารถให้ข้อมูลกับตำรวจได้ทันที เจ้าตัวเผยว่าได้พบผู้สื่อข่าวช่อง 8 และกลุ่มเพื่อนของผู้เสียชีวิตที่งานของนัทปง พร้อมยืนยันว่าอยู่กับ พี่ต้น ตลอดช่วงเวลาที่หลายคนสงสัย และไม่เคยหลบเลี่ยงไปไหน แต่กลับมีข่าวลือว่าสูญหาย จึงต้องออกมาชี้แจงให้สังคมเข้าใจ
ขณะเดียวกัน นายกิตติ ยังเปิดเผยว่า ตนและนัทปง คบหากันในฐานะแฟนมานานกว่า 2 ปี ก่อนแยกทางกันเพียง 1 เดือนก่อนเหตุการณ์เกิดขึ้น โดยยอมรับว่ารู้สึกสะเทือนใจมากเมื่อต้องสูญเสียอีกฝ่าย ส่วนเหตุผลที่นำไซยาไนด์ไปให้ เพราะไม่คิดว่าเขาจะทำร้ายตัวเอง และไม่ทราบมาก่อนว่านัทปงมีภาวะซึมเศร้า
เจ้าตัวยังยืนยันว่า ไม่รู้จักบิ๊ก มาก่อน และเพิ่งทราบจากข่าวว่าอีกฝ่ายอยู่ในบ้านในวันเกิดเหตุ พร้อมระบุว่า ทุกครั้งที่ไปหานัทปงมักเจอพี่ต้น อยู่ด้วยเกือบตลอด และตนเป็นหนึ่งในคนที่รู้รหัสเข้าบ้าน รวมถึงได้มอบข้อมูลด้านยาและรายละเอียดต่าง ๆ ให้ตำรวจครบแล้ว
นอกจากนี้ นายกิตติ ยังได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนออกมาพูดเพราะต้องการยืนยันความบริสุทธิ์และไม่ได้เป็นต้นเหตุทำให้นัทปงเสียชีวิต พร้อมขอให้สังคมอย่าด่วนตัดสินเขา ทั้งที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์โดยตรง ผมไม่ได้เอายาไปจับกรอกปากเขา เรื่องทั้งหมดเป็นปัญหาระหว่างพี่นัทกับแฟนใหม่ ไม่ใช่ผม เขากล่าว พร้อมยอมรับว่ารู้สึกเหนื่อยจากการสอบปากคำตลอดทั้งวัน และอยากพักผ่อนเพียงเท่านั้น ทั้งนี้ นายกิตติย้ำว่า ตอนนี้รู้สึกเฉย ๆ แต่เสียใจที่ถูกสังคมมองในแง่ลบเกินจริง และหวังว่าข้อเท็จจริงทั้งหมดจะถูกเปิดเผยในเร็ววัน