คลับดังพัทยาวุ่น! ล่าผู้จัดการหัวร้อนกระทืบลูกค้า แต่เจอต่างด้าวผิดกฎหมายเต็มร้านแทน
ข่าวสังคม - โซเชียล

คลับดังพัทยาวุ่น! ล่าผู้จัดการหัวร้อนกระทืบลูกค้า แต่เจอต่างด้าวผิดกฎหมายเต็มร้านแทน

จากกรณีเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2568 เกิดเหตุผู้จัดการชาวอินเดียของร้าน บอสคลับ ใจกลางวอล์กกิ้งสตรีท พัทยาใต้ มีพฤติกรรมทำตัวเป็นมาเฟียคุมสถานบันเทิง ใช้บอดี้การ์ดส่วนตัวหิ้วนักท่องเที่ยวชาวอินเดียไปทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บ โดยนักท่องเที่ยวรายดังกล่าวเป็นลูกค้า วีไอพีเกรดพรีเมียมของหลายร้านในเมืองพัทยา อีกทั้งยังถูกใช้อาวุธปืนจ่อศีรษะข่มขู่ สาเหตุจากการไม่ยอมจ่ายบิล ทั้งที่ตามปกติลูกค้ารายนี้จะมาชำระในวันถัดไป ซึ่งเป็นที่รู้กันของทุกร้าน เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความหวาดผวาและกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของเมืองพัทยาอย่างมาก

ล่าสุด เมื่อเวลา 00.10 น. วันที่ 30 กันยายน 2568 นายพัชรพัชร์ ศรีธัญญนนท์ นายอำเภอบางละมุง ได้สั่งการให้นายณฐาภพ ยมจินดา ปลัดอำเภอบางละมุง ร.ต.อ.อิงควัชร์ เกรียงสินกุลยศ ร.ต.อ.พงศ์เจริญ ทองไพบูลย์ รองสารวัตรตรวจคนเข้าเมืองชลบุรี ร.ต.อ.จิตติสุข สุธีนิทัศน์วงศ์ รอง สวป.สภ.เมืองพัทยา และร.ต.อ.อภิสิทธิ์ พึ่งแย้ม รอง สว.สทท.4 กก.2 บก.ทท.1 พร้อมกำลังฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยาและเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา รวมกว่า 100 นาย เข้าตรวจสอบ ร้านบอสคลับ พัทยา

ภายในร้านพบมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติรวมกว่า 300 คน กำลังสังสรรค์อยู่ เจ้าหน้าที่จึงสั่งยุติกิจกรรมทั้งหมด พร้อมตรวจสอบเอกสารแสดงตนและตรวจหาสารเสพติดในร่างกายพนักงาน พบว่ามีปัสสาวะสีม่วงจำนวน 9 ราย อีกทั้งยังตรวจพบพนักงานชาวต่างชาติ ทั้งสัญชาติอินเดีย พม่า และอุซเบกิสถานกว่า 40 คน ไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือถือใบอนุญาตผิดกฎหมาย จึงควบคุมตัวไปตรวจคัดแยกสารและนำแรงงานต่างด้าวส่งตรวจสอบที่สถานีตำรวจตรวจคนเข้าเมือง

เมื่อสอบถามหาตัวผู้จัดการชาวอินเดียที่ก่อเหตุพร้อมบอดี้การ์ดส่วนตัว ไม่พบตัวและไม่มาแสดงตนต่อเจ้าหน้าที่ตามที่แจ้งไว้ ทั้งนี้ฝ่ายปกครองได้มีคำสั่งให้ ร้านบอสคลับ ปิดให้บริการตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไปและจะทำเรื่องเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อพิจารณาปิดเพิ่มเติมตามนโยบายที่เคยประกาศไว้ พร้อมเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป