วันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 พ.ต.อ.กฤษ ก้อมน้อย ผกก.สส.บก.น.3 สั่งการให้ พ.ต.ท.จำนงค์ ประสพสุขมั่งดี รอง ผกก.สส.บก.น.3 พร้อมด้วย ร.ต.อ.นพพนธ์ แก้ววรรณา, ร.ต.อ.ณฐภัทร์ จุ่งพิวัฒน์ รอง สว.กก.สส.บก.น.3 และ ส.ต.ต.ปัณรพัศศ์ ก้อมน้อย ผบ.หมู่ สืบ 3 นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนนครบาล 3 เข้าจับกุม นายบุญวิวัฒน์ อายุ 50 ปี ผู้ทำหน้าที่ตรวจร่างกาย เขียนใบสั่งยา ออกความเห็นแพทย์ และนายณัฐวุฒิ อายุ 30 ปี ผู้รับคนไข้ ทำประวัติ ฉีดยาและจ่ายยา
สืบเนื่องจาก กก.สส.บก.น.3 ได้รับร้องเรียนจากพลเมืองดีว่า คลินิกเวชกรรมแห่งหนึ่งในพื้นที่แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร เปิดรักษาผู้ป่วยและออกใบรับรองแพทย์โดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าหน้าที่จึงให้สายลับเข้าไปแฝงตัวเข้ารักษาอาการไข้ เจ็บคอ พร้อมขอใบรับรองแพทย์ เมื่อเข้าไปถึง ชายคนหนึ่งอ้างตัวเป็นแพทย์ชื่อ หมอพงษ์ สอบถามอาการ ก่อนระบุว่าสายลับมีอาการท้องเสีย แล้วออกใบรับรองแพทย์ ระบุชื่อ นพ.อำนวย พร้อมความเห็นให้พักรักษา 1 วัน ประทับตราคลินิก และคิดค่ารักษา 300 บาท

ต่อมาชุดสืบสวนเดินทางเข้าตรวจสอบ พบ นายณัฐวุฒิ อยู่บริเวณหน้าเคาน์เตอร์จัดเอกสาร จึงสอบถามหาตัวแพทย์ผู้รักษา นายณัฐวุฒิพาเจ้าหน้าที่ขึ้นไปชั้น 2 ก่อนพบ นายบุญวิวัฒน์ หรือหมอพงษ์ นอนอยู่ภายในห้องพัก จากนั้นจึงนำตัวลงมาสอบสวน พร้อมตรวจภายในคลินิก พบยาหลายรายการ อุปกรณ์ทางการแพทย์จำนวนมาก ทั้งน้ำเกลือ ชุดผ่าตัดเล็ก เสื้อกาวน์ เข็มฉีดยา ไหมเย็บแผล รวมถึงเงินสดจากการรักษา 1,390 บาท และเวชระเบียนผู้ป่วยกว่า 6,000 ฉบับ
นายบุญวิวัฒน์ระบุว่า ตนเป็นแพทย์จริงและเปิดคลินิกมานาน 10 ปี แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ขอดูใบอนุญาตวิชาชีพ กลับไม่พบเอกสารแพทย์ พบเพียงใบอนุญาตแพทย์แผนไทยเท่านั้น

ขณะตรวจค้น เจ้าหน้าที่พบหญิงสาวยืนอยู่หน้าคลินิกในสภาพตกใจ เมื่อตรวจสอบพบว่าเป็น น.ส.เอ (นามสมมติ) เธอบอกว่าเพิ่งเข้ารักษาเพราะมีอาการป่วยและถูกฉีดยาไปหนึ่งเข็ม โดยเป็นนายณัฐวุฒิที่ฉีดให้ และมีการจ่ายยาเพิ่ม เจ้าหน้าที่จึงแนะนำให้รีบไปพบแพทย์โรงพยาบาลทันที เนื่องจากไม่ทราบว่าถูกฉีดด้วยยาอะไร
จากการสอบถาม นายณัฐวุฒิรับว่า มีหน้าที่จดชื่อคนไข้ สอบถามอาการ ฉีดยาและจัดยาตามที่นายบุญวิวัฒน์สั่ง ส่วนการวินิจฉัยโรคและออกใบรับรองแพทย์เป็นหน้าที่ของนายบุญวิวัฒน์ โดยนายณัฐวุฒิอ้างว่าเรียนการฉีดยามาจากนายบุญวิวัฒน์และฝึกกับคนไข้ที่มารักษาจริง

เจ้าหน้าที่จึงจับกุมและแจ้งข้อหาดำเนินคดีในฐานเป็นผู้ดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้จัดให้มีผู้รับผิดชอบควบคุมสถานพยาบาล ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ขึ้นทะเบียนและไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม ร่วมกันขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่มีใบอนุญาต และร่วมกันมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 4
จากข้อมูลการตรวจสอบพบว่า ใบอนุญาตสถานพยาบาลมีอายุถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 โดยนายบุญวิวัฒน์เป็นผู้ได้รับอนุญาต เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2559 ส่วนผู้มีหน้าที่ควบคุมตามกฎหมายเป็นบุคคลอื่น นายบุญวิวัฒน์ให้การว่าเดิมได้ว่าจ้าง นพ.อำนวย เป็นผู้ดำเนินการ แต่เมื่อใบอนุญาตหมดอายุ แพทย์ดังกล่าวไม่ต่อ จึงเปลี่ยนชื่อคลินิกใหม่ และเปิดให้มีการรักษาโดยให้นายณัฐวุฒิรับผิดชอบดูแลคนไข้เอง
การออกใบรับรองแพทย์และใบสั่งยา ใช้ชื่อของ นพ.อำนวย และ นพ.จักรกริศน์ สลับกันไป ตามที่ใช้ในคลินิกทั้งสองแห่ง โดยเมื่อช่วงกลางเดือนกันยายน 2568 นายบุญวิวัฒน์ทราบว่าชุดสืบสวน กก.สส.บก.น.3 และกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เตรียมเข้าตรวจค้น จึงปิดคลินิกทั้งสองแห่งลงเกรงว่าจะถูกดำเนินคดี