พนังประตูระบายน้ำ แม่น้ำน้อยต้านไม่ไหว ทะลักท่วมทุ่งบางบาล-ผักไห่หนัก
ข่าวภูมิภาค

พนังประตูระบายน้ำ แม่น้ำน้อยต้านไม่ไหว ทะลักท่วมทุ่งบางบาล-ผักไห่หนัก

เมื่อวันที่ 8 พ.ย.68  เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เกิดเหตุพนังด้านข้างประตูระบายน้ำคลองตานึ่ง โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาผักไห่ หมู่ 4 ต.ทางช้าง อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา เกิดการทรุดตัวและพังทลาย จากแรงดันน้ำมหาศาลในแม่น้ำน้อย ส่งผลให้มวลน้ำไหลทะลักข้ามฝั่งเข้าสู่พื้นที่ ทุ่งผักไผ่ ทุ่งป่าโมก และชุมชนกุฎี อำเภอผักไห่ ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

จากการตรวจสอบ พบประชาชนจำนวนมากออกมาสังเกตการณ์สถานการณ์น้ำ ขณะที่เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานเร่งดำเนินการซ่อมแซมและควบคุมสถานการณ์อย่างเร่งด่วน โดยพบว่าตัวประตูระบายน้ำยังคงปิดอยู่ แต่พนังด้านขวา ซึ่งเป็นแนวดินและแผ่นปูนเกิดการทรุดตัว ทำให้น้ำจากแม่น้ำน้อยที่มีระดับสูงเอ่อล้นทะลักผ่านจุดดังกล่าวเป็นจำนวนมาก

เจ้าหน้าที่นำรถแบ๊คโฮและต้นยูคาลิปตัสกว่า 100 ต้น ถูกลำเลียงเข้าพื้นที่ เจ้าหน้าที่เริ่มวางแนวเสริมกันน้ำเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนโดยเร็วที่สุด นายทรงพล หรือสจ.เบียร์ สุขสมบูรณ์ ส.อบจ.พระนครศรีอยุธยา เขต อ.บางบาล เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งเหตุเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ว่าพบรอยรั่วบริเวณประตูระบายน้ำคลองตานึ่ง จึงลงพื้นที่ตรวจสอบและพบว่ามวลน้ำกัดเซาะขยายช่องโหว่จนกว้างขึ้น ส่งผลให้น้ำทะลักเข้าท่วมทุ่งเป็นวงกว้าง

เจ้าหน้าที่เตรียมนำเครื่องจักรหนักเข้ากดเสาเข็มเพื่อชะลอการไหลของน้ำ พร้อมวางแผนนำกระสอบทรายขนาดใหญ่ (Big Bag) มาปิดกั้นในวันรุ่งขึ้น เพื่อสกัดการไหลของน้ำไม่ให้ลุกลามกระทบพื้นที่ชุมชน โดยเฉพาะถนนสายหลัก บางบาล–ผักไห่ และหมู่บ้านในอำเภอผักไห่และป่าโมก

ด้านนายเกรียงศักดิ์ ปึกขาว นายอำเภอบางบาล กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบเบื้องต้น มอบหมายให้กำนันและผู้ใหญ่บ้านสำรวจผลกระทบ พบว่ามีบ้านเรือนในพื้นที่ทุ่ง 6 หลัง ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ขณะนี้เตรียมความพร้อมรับมือแล้ว

โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเป็นทุ่งกว่า 1,000 ไร่ ระดับน้ำจึงขึ้นช้า แม้น้ำจะไหลแรงแต่กระจายตัวกว้าง ปัจจุบันระดับน้ำเพิ่มขึ้นประมาณ 4–5 เซนติเมตร ยังไม่รุนแรงและชาวบ้านยังสามารถอาศัยอยู่ได้ นายทรงพล พร้อมทีมงานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องยังคงเร่งดำเนินการซ่อมแซม เพื่อควบคุมสถานการณ์ให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน โดยมวลน้ำส่วนใหญ่จะไหลต่อไปยังพื้นที่ทุ่งผักไห่ ซึ่งยังสามารถรองรับน้ำได้

เบื้องต้นคาดว่า การซ่อมแซมจะแล้วเสร็จภายในช่วงเช้า สถานการณ์โดยรวมยังอยู่ในความควบคุม อย่างไรก็ตาม แจ้งเตือนให้ 6 ครัวเรือนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบยกของขึ้นที่สูง พร้อมประสานอำเภอป่าโมกและอำเภอผักไห่ให้เฝ้าระวังมวลน้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม นายกิตติภูมิ เตชัย วิศวกรชลประทาน โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาผักไห่ กล่าวว่า หลังรับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่ทันทีเพื่อประเมินความเสียหาย และดำเนินการปักเสาเข็มชั่วคราวเพื่อชะลอการไหลของน้ำ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในคืนนี้ เพื่อไม่ให้กระทบต่อพื้นที่การเกษตรและชุมชนโดยรอบ