เมื่อวันที่ 6 พ.ย.68 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รับแจ้งจากกรมชลประทานว่า ได้คาดการณ์ปริมาณน้ำไหลผ่านสถานี C.2 อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อยู่ในเกณฑ์ประมาณ 2,600 – 2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และคาดการณ์แม่น้ำสะแกกรังปริมาณน้ำไหลผ่านสถานี Ct.19 จังหวัดอุทัยธานี และลำน้ำสาขา อยู่ในเกณฑ์ประมาณ 450 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
โดยจะทำให้ปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยามีปริมาณน้ำระหว่าง 3,050 – 3,250 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที การรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้งสองฝั่งรวม 550 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จากสถานการณ์ดังกล่าว จึงปรับเพิ่มปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาจากเดิมไม่เกิน 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็นไม่เกิน 2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แบบขั้นบันได โดยปริมาณน้ำจะส่งผลให้ระดับน้ำตั้งแต่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 0.60 – 0.90 เมตร ในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ดังนี้
คลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย) จ.สิงห์บุรี บริเวณอ.เมืองสิงห์บุรี อ.อินทร์บุรี และอ.พรหมบุรี- จ.อ่างทอง บริเวณอ.ไชโย และอ.ป่าโมก จ.ชัยนาท บริเวณอ.สรรพยา
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) จึงประสาน 10 จังหวัดภาคกลาง ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี และสมุทรปราการ รวมถึงกรุงเทพมหานคร เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ พร้อมประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาคเอกชนที่ประกอบกิจการในแม่น้ำ อาทิ งานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร ท่าเทียบเรือโดยสารสาธารณะ ตลอดจนประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำและบริเวณจุดเสี่ยงที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำให้เฝ้าระวังระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ รวมถึงเตรียมพร้อมในการขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงให้พ้นจากแนวน้ำท่วม
นอกจากนี้ ยังได้ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ตรวจสอบแนวคันกั้นน้ำและแนวป้องกันน้ำท่วมให้มีความแข็งแรง เพื่อป้องกันระดับน้ำล้นข้ามแนวคันกั้นน้ำ อีกทั้งจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย เพื่อเตรียมความพร้อมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับประชาชน ขอให้ติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด และเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้น และหากได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ทางไลน์ ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784 โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยได้ที่แอปพลิเคชัน THAI DISASTER ALERT” ทุกที่ ทุกเวลา