ด่วน! ปภ. เร่งระบายน้ำ เตรียมรับมือพายุแมตโม เปิดพื้นที่เสี่ยงประสบภัย
ข่าวภูมิภาค

ด่วน! ปภ. เร่งระบายน้ำ เตรียมรับมือพายุแมตโม เปิดพื้นที่เสี่ยงประสบภัย

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2568 ศูนย์ประชาสัมพันธ์กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เผยเเพร่ภารกิจเดินหน้าระดมกำลังเร่งระบายน้ำช่วยลุ่มเจ้าพระยา กำชับพื้นที่เสี่ยงติดตาม พร้อมเตรียมรับมือฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุแมตโม ผ่านเพจเฟซบุ๊ก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM โดยระบุว่า วันนี้ (5 ต.ค. 68) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสถานการณ์อุทกภัยและความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำรับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาตอนบน ทำให้ระบบการระบายน้ำลงสู่ทะเลทำได้ยาก ประกอบกับแม่น้ำเจ้าพระยายังมีลักษณะที่เป็นคอขวดทำให้การไหลระบายน้ำช้า การแก้ไขปัญหาอุทกภัยที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนอยู่ในขณะนี้จำเป็นต้องเร่งระดมสรรพกำลังช่วยเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ท่วมขังให้ได้เร็วที่สุด

โดยในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งได้รับผลกระทบในพื้นที่หลายอำเภอที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดย ปภ. ได้ส่งทีมปฏิบัติการ ปภ. จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 2 สุพรรณบุรี พร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าสนับสนุนการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในอำเภอบางบาลและอำเภอพระนครศรีอยุธยา เพิ่มเติม ประกอบด้วย รถผลิตน้ำดื่ม จำนวน 1 คัน รถบรรทุกติดตั้งเครื่องสูบน้ำระยะไกล จำนวน 1 คัน รถยนต์กู้ภัยเคลื่อนที่เร็ว จำนวน 1 คัน รถบรรทุกขนาดเล็ก 1 คัน เครื่องจักรกลสาธารณภัย วัสดุ อุปกรณ์ และเจ้าหน้าที่ทีมชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต

ทั้งนี้ อำเภอบางบาล และอำเภอพระนครศรีอยุธยา มีประชาชนได้รับผลกระทบจากอุทกภัย รวม 3,054 ครัวเรือน 8,249 คน ซึ่ง ปภ. ได้วางแผนกระจายกำลังและเครื่องจักรกลสาธารณภัยช่วยเหลือแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ต่าง ๆ โดยสนับสนุนรถผลิตน้ำดื่ม จำนวน 1 คัน ผลิตน้ำดื่มสะอาดแจกจ่ายผู้ประสบภัยได้รับน้ำดื่มสะอาดบริโภคอย่างทั่วถึง และสนับสนุนรถบรรทุกติดตั้งเครื่องสูบน้ำระยะไกล จำนวน 1 คัน พร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัย วัสดุอุปกรณ์และเจ้าหน้าที่ ปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อเสริมประสิทธิภาพการเร่งระบายน้ำจากคลองสระบัว ไปยังคลองขวด ระยะทางประมาณ 300 เมตร เพื่อเร่งระบายลงสู่แม่น้ำลพบุรี

ในส่วนของพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นพื้นที่แจ้งเตือนให้เฝ้าระวังแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะที่อำเภอเมืองปทุมธานี และอำเภอสามโคก ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 1 ปทุมธานี ได้สนับสนุนเครื่องจักรกลสาธารณภัยพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ ช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่เทศบาลตำบลเชียงรากใหญ่ จังหวัดปทุมธานี โดยนำเครื่องสูบน้ำขับด้วยเครื่องยนต์ดีเซล อัตราการสูบ 28,000 ลิตรต่อวินาที จำนวน 1 เครื่อง ติดตั้งและเร่งระบายน้ำบริเวณประตูระบายน้ำ (ท้องคุ้ง) หมู่ที่ 7 ตำบลเชียงรากใหญ่ สูบน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อลดระดับน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งยังคงเดินหน้าสูบระบายน้ำต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ปภ. ยังได้ติดตามสภาพอากาศร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ พายุโซนร้อนกำลังแรง แมตโม บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ได้ทวีกำลังขึ้นเป็นพายุไต้ฝุ่นแล้ว ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และคาดว่าจะขึ้นขึ้นฝั่งบริเวณมณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของประเทศจีนในวันนี้ และจะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็วตามลำดับ

โดยพายุนี้ไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่อิทธิพลของพายุ แมตโม จะส่งผลให้ตั้งแต่วันนี้ - 7 ตุลาคม 2568 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง รวมทั้งด้านรับมรสุมของภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว เฝ้าระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง

โดยเฉพาะในพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่มและพื้นที่น้ำท่วมขัง อย่างไรก็ตาม ปภ. ก็ยังคงติดตามและเฝ้าระวังการเคลื่อนตัวของพายุ แมตโม อย่างใกล้ชิด หากพบปัจจัยเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่อประชาชน ปภ. จะทำการแจ้งเตือนประชาชนทราบในช่องทางต่าง ๆ โดยเฉพาะการแจ้งเตือนผ่านระบบ Cell Broadcast เพื่อให้ประชาชนทราบและสามารถอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัยอย่างทันท่วงที

นอกจากนี้ยังคงสั่งการให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบจากพายุ ตรึงกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการและเครื่องจักรกลสาธารณภัยประจำอยู่ในพื้นที่เสี่ยงเป็นการล่วงหน้า เพื่อสนับสนุนปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชน ส่วนศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตที่ไม่มีสถานการณ์ภัย ให้เตรียมพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้พร้อมสนับสนุนพื้นที่ที่มีสถานการณ์ ตลอด 24 ชั่วโมง

ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 5 ต.ค. 68 เวลา 06.00 น.) ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 16 จังหวัด ได้แก่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นครปฐม ชัยภูมิ และฉะเชิงเทรา) มีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 102,051 ครัวเรือน 345,712 คน และมีผู้เสียชีวิต 12 ราย

ท้ายนี้ ขอให้ประชาชนติดตามพยากรณ์อากาศ ข่าวสารการแจ้งเตือนภัยจากหน่วยงานภาครัฐอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะในช่วงระยะนี้ หากมีประกาศหรือคำเตือนขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด หากพบเห็นหรือได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์อุทกภัยสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ทาง Line Official Account ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784 โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป

ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM

เรียบเรียงโดยทีมข่าวสยามนิวส์