คนเป็นพ่อแทบนํ้าตาร่วง ต้องมาจับลูกตัวเอง หลังก่อเหตุขโมยเงินพระ 4 ครั้ง
ข่าวภูมิภาค

คนเป็นพ่อแทบนํ้าตาร่วง ต้องมาจับลูกตัวเอง หลังก่อเหตุขโมยเงินพระ 4 ครั้ง

เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2568 ร.ต.อ.ธิรโยธิน ทรัพย์สินธ์ รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งจาก นางออละมัย โคตรชมพู ผู้ใหญ่บ้าน ต.หนองนาคำ ว่า เกิดเหตุคนร้ายบุกทุบกุฏิเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ เมื่อวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา และลักเอาทรัพย์สินไป

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณกุฏิปูนชั้นเดียวของ พระมหาจำรัส นามอาษา อายุ 51 ปี เจ้าอาวาสวัด พบร่องรอยความเสียหายที่ บานกระจกประตูถูกทุบแตก คนร้ายได้ล้วงมือเข้าไปปลดล็อกประตู ก่อนจะเข้าไปลักเงินสดประมาณ 5,000–6,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่ได้จากกิจนิมนต์และวางไว้ในซองสีขาวบนโต๊ะ

นอกจากนี้ ยังพบ คราบเลือด หยดอยู่บนพื้นกระเบื้องสีขาว คาดว่าคมกระจกอาจจะบาดมือคนร้ายขณะที่พยายามล้วงเข้าไปเปิดล็อกประตู เจ้าอาวาสเผยว่า วันเกิดเหตุตนไปรับกิจนิมนต์ เมื่อกลับมาก็พบว่ากุฏิถูกงัดจึงเปิดดูกล้องวงจรปิดย้อนหลัง พบว่าคนร้ายได้ ปีนรั้วข้างวัดเข้ามา ก่อนจะ เปิดประตูกุฏิ 2 หลัง ปล่อย เจ้าแตงโม สุนัขพันธุ์บางแก้วออกมา แล้วใช้ไม้กวาดไล่สุนัขก่อนก่อเหตุ โดยกล้องวงจรปิดยืนยันว่าคนร้ายคือ ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้กับวัด

เจ้าอาวาสยังเปิดเผยอีกว่า คนร้ายรายนี้เคยก่อเหตุลักทรัพย์ภายในวัดมาแล้วถึง 4 ครั้ง แม้จะมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดเพียง 2 ครั้ง โดยก่อเหตุซ้ำในเดือนสิงหาคม 2 ครั้ง, วันที่ 10 กันยายน ได้เงินไป 3,000 บาท และล่าสุดคือวันที่ 26 กันยายน ได้เงินไปมากที่สุด 5,000-6,000 บาท

ผู้ก่อเหตุ เคยมา จำศีลอยู่ที่วัด 2 วัน ก่อนเข้าพรรษา ทำให้สนิทสนมกับสุนัขในวัด แต่เจ้าอาวาสอยากวิงวอนให้คนร้ายกลับตัว “อย่ามาลักเล็กขโมยน้อย ไม่มีก็ไม่ต้องไปลักขโมย มันไม่ดี เสียอนาคต ด้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็น พ่อของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยด้วยความรู้สึกจุกอกและเสียใจว่า ลูกชาย ติดยาบ้าและกัญชา ไม่ยอมทำงานเอาแต่ขอเงิน และสาเหตุที่ขโมยเงินเจ้าอาวาสก็เพื่อนำไปซื้อยาเสพติด

ปู่ของผู้ก่อเหตุ ก็ยอมรับว่าหลานเสพยาบ้า และได้สารภาพกับตนว่าก่อเหตุจริง ตนได้บอกให้ไปมอบตัวกับเจ้าหน้าที่เพื่อ ไปดัดสันดาน ในคุก 2-3 ปี ซึ่งหลังเกิดเหตุ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านผู้เป็นพ่อได้แจ้งตำรวจและพยายามมาจับตัวลูกชายด้วยตัวเองแล้วถึง 2 ครั้ง แต่ผู้ก่อเหตุไหวตัวทันหลบหนีไปได้ทุกครั้ง ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกำลังได้นำหมายไปยังบ้านพักของผู้ก่อเหตุในพื้นที่ ม.7 ต.หนองนาคำ แต่ผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไปได้อีกครั้ง และขณะนี้ทางเจ้าอาวาสได้มอบอำนาจให้ผู้ใหญ่บ้านเข้าแจ้งความดำเนินคดีอย่างเป็นทางการแล้ว