วันที่ 26 กันยายน 2568 กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ร้องเรียนขอความเป็นธรรม หลังประสบอุบัติเหตุถูกรถกระบะเลี้ยวกลับรถตัดหน้าอย่างกะทันหัน จนได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้งตนเองและเพื่อน แต่กลับถูกคู่กรณีเพิกเฉย ไม่รับผิดชอบเยียวยา และยังตั้งข้อสังเกตถึงความไม่ชอบมาพากลในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สาย ที่ส่อแววเอื้อประโยชน์ให้แก่คู่กรณี เนื่องจากพ่อของคู่กรณีมีตำแหน่งทางการเมือง
ผู้เสียหายเป็นหญิงสาววัย 23 ปี และ 24 ปี เล่าว่า เมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา ขณะที่ทั้งคู่ขี่รถจักรยานยนต์มาตามทางตรงบนถนนพหลโยธินขาขึ้น เพื่อกลับบ้านที่ อ.แม่สาย ได้มีรถกระบะของคู่กรณีเลี้ยวกลับรถตัดหน้าในระยะกระชั้นชิดบริเวณจุดกลับรถบ้านป่ายางใหม่ ม.4 ต.เวียงพางคำ ทำให้รถจักรยานยนต์พุ่งชนอย่างแรงจนร่างของทั้งคู่มุดอยู่ใต้ท้องรถ
อุบัติเหตุดังกล่าวส่งผลให้ผู้เสียหายทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บรุนแรง ฟันร่วงรวม 6 ซี่ กระดูกแขนซ้ายแตก กระดูกสะโพกเคลื่อน และมีบาดแผลฉีกขาดทั่วใบหน้า แขน ขา และลำตัว
ตลอดช่วงเวลาการรักษาตัว คู่กรณีมาเยี่ยมเพียงครั้งเดียว พร้อมกระเช้าและขอหลักฐาน พ.ร.บ.รถ เพื่อไปดำเนินการเคลมประกันให้ตนเอง จากนั้นก็ไม่เคยมาแสดงความรับผิดชอบหรือเยียวยาใด ๆ อีกเลย
นอกจากนี้ ผู้เสียหายยังตั้งข้อสงสัยถึงการทำงานของพนักงานสอบสวนที่ สั่งให้แพทย์ตรวจเลือดผู้เสียหายทั้งสองคนเพื่อหาสารเสพติดตั้งแต่ในโรงพยาบาล แต่กลับทราบภายหลังว่า ทางฝ่ายคู่กรณีไม่ได้ถูกสั่งตรวจเลือดเช่นเดียวกัน ทั้งที่ควรจะต้องมีการตรวจทั้งสองฝ่าย
ต่อมาเมื่อวันที่ 19 กันยายน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นัดหมายไกล่เกลี่ยที่ สภ.แม่สาย ซึ่งคู่กรณีอ้างว่าไม่มีเงินชดใช้ค่ารักษาพยาบาลและค่าซ่อมรถ ทางภรรยาของคู่กรณีจึงเสนอเงื่อนไขว่า จะให้นำกุญแจและสมุดคู่มือรถกระบะไว้เป็นหลักประกัน และจะหาเงินมาจ่ายให้ครบภายใน 7 วัน
ด้วยความเชื่อใจ ผู้เสียหายจึงตกลงทำสัญญายินยอมต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจและพยาน แต่ต่อมาในวันที่ 23 กันยายน ผู้เสียหายรู้สึกไม่มั่นใจ จึงเดินทางไปดูรถกระบะของกลางที่จอดไว้หน้าโรงพัก แต่พบว่ารถคันดังกล่าวได้หายไปแล้ว
เมื่อสอบถามไปยังร้อยเวรเจ้าของคดี ได้รับคำชี้แจงว่า คู่กรณีได้มายกเลิกสัญญาฝ่ายเดียว โดยอ้างว่าทนายความทักท้วงเนื่องจากรถเป็นชื่อของภรรยา และผู้เสียหายไม่มีสิทธิ์ยึดหลักฐานดังกล่าวถ้าเจ้าของไม่ยินยอม ทางตำรวจจึงอนุญาตให้คู่กรณีนำรถกลับไปแล้ว
ผู้เสียหายจึงเกิดข้อกังขาว่า ในวันทำสัญญาเป็นฝ่ายภรรยาของคู่กรณีที่เสนอเงื่อนไขการวางรถเป็นหลักประกันด้วยตนเอง แต่เหตุใดจึงสามารถยกเลิกสัญญาฝ่ายเดียวได้โดยที่ผู้เสียหายไม่รับทราบ และด้วยความที่คู่กรณีมีพ่อเป็นนักการเมือง ผู้เสียหายจึงเชื่อว่า การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เป็นกลาง
ขณะนี้ผู้เสียหายเตรียมยื่นหนังสือร้องเรียนไปยังผู้บังคับบัญชาของพ่อคู่กรณี และร้องเรียนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปยังผู้บังคับบัญชาระดับสูง เพื่อขอให้มีการตรวจสอบและให้ได้รับความเป็นธรรมในคดีต่อไป