เดือด! ชาวบ้านชายแดน ลุกฮือขับไล่หญิงชาวกัมพูชา เมีย จนท.ป่าไม้ ทำตัวเป็นไส้ศึกให้เขมร
ข่าวภูมิภาค

เดือด! ชาวบ้านชายแดน ลุกฮือขับไล่หญิงชาวกัมพูชา เมีย จนท.ป่าไม้ ทำตัวเป็นไส้ศึกให้เขมร

วานนี้ (7 ก.ย. 2568) ที่ศาลาประชาคม หมู่บ้านไซรไปร ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ทางผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 บ้านแซรไปร ได้เปิดประชุมประชาคมหมู่บ้าน ตามคำร้องเรียนของชาวบ้าน ว่าในหมู่บ้านมีหญิงชาวกัมพูชา ซึ่งเป็นภรรยาของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เข้ามาอยู่ในหมู่บ้านตั้งแต่ 27 ปีที่แล้ว แต่พอเกิดการยิงปะทะระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย กลับทำตัวเป็นไส้ศึก เชื่อว่าเป็นผู้ที่แจ้งเบาะแส แจ้งพิกัด รวมทั้งความเคลื่อนไหวของชาวบ้าน และของทหารไทย

เพราะขณะที่ผู้ใหญ่บ้านประกาศห้ามถ่ายรูป รถถัง ปืนใหญ่ ของทหารไทยระหว่างขนส่งเข้าสู่ชายแดน แต่หญิงชาวกัมพูชาคนดังกล่าวกลับตื่นนอนมาถ่ายรูปรถถัง อาวุธ ปืนใหญ่ และเชื่อว่ามีการส่งไปให้ทหารกัมพูชา พร้อมทั้งการแชร์คลิบของฝั่งกัมพูชา ที่ลงโพสต์ใส่ร้ายคนไทย ใส่ร้ายทหารไทย วันนี้จึงลงมติต้องการให้ขับไล่ใส้ศึกหญิงชาวกัมพูชาออกจากหมู่บ้าน ออกจากประเทศไทยไป แม้จะเป็นภรรยาของเจ้าหน้าที่ป่าไม้มานานก็ตาม แต่หากไม่ซื่อสัตย์ ก็ต้องออกไปจากไทย

นาย สมบัติ สุขงาม กำนันตำบลไพรพัฒนา ที่มาร่วมประชุมประชาคมหมู่บ้านแซรไปร กล่าวว่า มีหญิงชาวกัมพูชาที่เป็นภรรยาของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เข้ามาอยู่ในพื้นที่ แล้วก็ไปแชร์โพสต์ของกัมพูชา บิดเบือนข้อเท็จจริง ตามที่พี่น้องได้เข้าใจ แล้วก็ช่วงนี้มีสถานการณ์ที่มีการสู้รบ ทำให้ประชาชนเป็นห่วงพี่น้องด้วยกันในพื้นที่ชายแดน และพี่น้องทหารที่มาปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของไทย เชื่อว่าจะเป็นคนแชร์พิกัดให้กัมพูชา ชาวบ้านเลยมีการรวมกันผลักดันให้หญิงชาวกัมพูชาคนนี้ออกไปจากหมู่บ้าน และไม่ให้อยู่ในประเทศไทยด้วย

ขณะที่ นายบัญชา จันทร์ณรงค์ นายอำเภอภูสิงห์ หลังจากมาร่วมประชุมกับคณะกรรมการหมู่บ้าน เปิดเผยว่า ได้มีการบูรณาการทุกภาคส่วนตรวจสอบข้อร้องเรียน กรณีชาวกัมพูชาที่เข้ามาอยู่พื้นที่ แล้วก็มีการโพสต์ข้อมูลอันเป็นการเบี่ยงเบนข้อเท็จจริง ทำพี่น้องในพื้นที่เกิดความไม่พอใจ ซึ่งวันนี้พี่น้อง ทั้งกำนัน - ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ทหาร ตำรวจ รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้มาตรวจสอบข้อมูลการเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทย ทั้งหญิงชาวกัมพูชา และผู้ที่อ้างว่าเป็นลูกหลานที่ตามเข้ามาอยู่อาศัยด้วย โดยจะได้นำข้อมูลรายงานให้ผู้บังคับบัญชา รวมทั้งเจ้าหน้าที่ระดับจังหวัด เพื่อนำไปพิจารณาดำเดินการ ซึ่งได้นัดหมายที่จะมาตรวจสอบพิจารณาตามกฎหมาย ในวันนี้ (8 ก.ย. 68) ที่อำเภอภูสิงห์ ต่อไป

ขณะเดียวกันชาวบ้านที่เป็นกลุ่มผู้ที่รวบรวมหลักฐานการแชร์ภาพที่บิดเบือนความเป็นจริงในโพสต์ชาวกัมพูชา ได้นำคลิปวิดีโอมาให้ดู ซึ่งเป็นภาพทหารกัมพูชากำลังวางระเบิดตามแนวชายแดน แต่หญิงชาวกัมพูชาที่ลงโพสต์มาจากกัมพูชาอธิบายเป็นภาษาเขมร ว่า เป็นการวางระเบิดของทหารไทยเอง ก่อนทหารไทยไปเหยียบระเบิดเอง และอีกหลาย ๆ โพสต์ ในลักษณะนี้ จึงทำให้ชาวบ้านแชรไปรไม่พอใจ ต้องการให้หญิงกัมพูชาคนดังกล่าวออกไปจากหมู่บ้าน และออกไปจากประเทศไทย

ด้าน หญิงชาวกัมพูชาที่ถูกขับไล่ ชื่อ นางเขื่อน กล่าวว่า แฟนตนก็อยู่หน้าบ้านในชุดเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ไม่ออกไปไหน มีที่ มีบ้านอยู่ที่นี่ จะไปออกทำไม เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด ลูกหลานตนที่เข้ามาอยู่ในไทยด้วย ก็เข้ามาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีพาสปอร์ตถูกต้อง ตนอยู่ที่นี่ 27 ปีแล้ว ตอนมาพาลูกมาด้วย ตอนนั้น ลูกตนโตอายุ 8 ขวบ ลูกคนเล็กอายุ 8 วัน ตอนนี้ลูก ๆ ก็มีครอบครัว มีบัตร มีพาสปอร์ตทุกคน ซึ่งลูกโตก็ได้สามีคนไทยกันหมดแล้ว ตนยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบทุกอย่าง เพราะตนมั่นใจว่าตนไม่ได้ทำอะไรผิด