เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 ธ.ค.68 กองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา ประจำวันที่ 18 ธ.ค.68 โดยมีเหตุการณ์สำคัญในพื้นที่ส่วนหลัง กระสุนปืนใหญ่กัมพูชายิงตกบริเวณบ้านภูมิซลอน และทางขึ้นอุทยานผามออีแดง ในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ และฝ่ายไทยยังไม่สามารถนำร่างผู้เสียชีวิต 2 นายออกจากพื้นที่เนิน 350 (ปราสาทตาควาย) ได้ เนื่องจากฝ่ายกัมพูชาป้องกันด้วยอาวุธปืนเล็กยาว ลูกระเบิดขว้าง และกับระเบิดอย่างหนาแน่น
ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณจังหวัดอุบลราชธานี พื้นที่ช่องบก ทั้งสองฝ่ายยังมีการปะทะเป็นระยะแบบประปรายในลักษณะเช็คแนว ฝ่ายไทยยังคงตรึงกำลังและเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งสถานการณ์โดยรวมปกติ พื้นที่ช่องอานม้า ฝ่ายไทยได้ตรึงกำลังตลอดแนวการวางกำลัง และสถาปนาความมั่นคง บริเวณที่หมาย
พื้นที่ภูมะเขือ – ช่องโดนเอาว์ – พลาญยาว – พลาญหินแปดก้อน ฝ่ายไทยได้ตรวจพบโดรนทิ้งระเบิด กัมพูชาในพื้นที่ภูมะเขือ หลายห้วงเวลาตลอดทั้งวัน และโดรน FPV ทฟารกัมพูชา โจมตีฝ่ายไทยและติดตาข่ายฝ่ายไทยบริเวณภูมะเขือและระเบิด กำลังพลปลอดภัย
ชายแดนจังหวัดสุรินทร์ พื้นที่ช่องจอม – ช่องเปรอ – ช่องระยี ฝ่ายไทยทำการเข้ายึดที่หมายโอคลาคมุมพื้นที่ช่องจอม ฝ่ายไทยทำการเสริมความมั่นคงแนวการวางกำลัง พื้นที่คนาฝ่ายไทยสถานปนาที่หมาย และตรึงกำลังในพื้นที่ตลอดแนวการวางกำลัง
พื้นที่ตาควายฝ่ายทหารกัมพูชามีการยิงรถถัว ปืนใหญ่ และ จรวดหลายลำกล้องBM – 21 เข้ามาเป็นห้วงๆ ฝ่ายทหารกัมพูชายังใช้ โดรนตรวจจการณ์ และโดรน FPV เป็นจำนวนมาก เข้ามายังฝั่งไทย โดยฝ่ายไทยยังไม่สามารถนำร่างผู้เสียชีวิต ลงมาจากเนิน 350 ได้ เนื่องจาก ทหารกัมพูชาต่อต้านอย่างหนาแน่นด้วย ปืนเล็กยาว ลูกระเบิดขว้าง และกับระเบิด มั้งนี้ยังสะท้อนว่า ทหารกัมพูชายังคงจับตามองพื้นที่ และเตรียมตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างต่อเนื่อง
พื้นที่ช่องกร่าง ฝ่ายไทยได้ใช้ปืนทำการยิงข่ม รถถังทหารกัมพูชาที่พื้นที่ตรงข้าม
พื้นที่ตาเมือนธม ทหารกัมพูชา ทำการระดมยิงปืนเล็กยาว ปืน ค. ปืนใหญ่ อย่างหนาแน่นตลอดแนว มีการปะทะ ด้วยอาวุธหนักอย่างหนาแน่น และยังมีการปืนเล็กเป็นระยะๆ สามารถตรวจพบ UAV จำนวนมากตลอดวัน พื้นที่ฝ่ายไทยยังคงถูกเฝ้าตรวจและคุกคาม ด้วยระบบอากาศยานไร้คนขับต่อเนื่องจนถึงช่วงค่ำ ชายแดนจังหวัดบุรีรัมย์ พื้นที่ช่องสายตะกู ทั้ง 2 ฝ่าย มีการตรึงกำลังตลอดแนว และปรากฏการยิงตอบโต้กันด้วยปืน ค. และ ปืนใหญ่ เป็นระยะๆ