วันนี้ (26 พ.ย. 68) ที่ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบกลาง ถนนเลียบทางรถไฟ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผบ.ตร. เดินทางเข้ามายื่นฟ้อง พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ในความผิดตามมาตรา 157 ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และ มาตรา 172
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในวันนี้ตนเดินทางเข้ามายื่นฟ้องพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ คนเดียวในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพราะตนมองว่าเจ้าตัวมีเจตนากลั่นแกล้ง เนื่องจากได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยตนในเรื่องข้อสอบของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยของคณะนิติศาสตร์ ทั้ง ๆ ที่ตนยังไม่ได้ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา ซึ่งการตั้งคณะกรรมการสืบสวนผู้ใด จะต้องมีมูลจากคดีอาญา แม้ว่าทางพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ จะมีอำนาจตั้งคณะกรรมการ แต่จะใช้อำนาจเกินกรอบของกฎหมายไม่ได้

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามตนได้ฟ้องพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ จากกรณีให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนกล่าวหาว่าตนมีส่วนในการกระทำความผิดเกี่ยวกับที่ตนโดนตั้งคณะกรรมการ ตนจึงได้ไปยื่นฟ้องฐานหมิ่นประมาทที่ศาลอาญากรุงเทพใต้เอาไว้แล้ว
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ส่วนวันนี้ในประเด็นเรื่องข้อสอบ ต้องแจ้งว่าตามพ.ร.บ.ตำรวจ มาตรา 129 ข้าราชการตำรวจที่ถูกออกจากราชการ หรือพ้นสภาพ จะต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงเท่านั้นภายใน 1 ปี ซึ่งทางพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงก่อนครบกำหนด 1 ปีเพียงไม่กี่วัน ทั้ง ๆ ที่ตามพ.ร.บ.ตำรวจต้องตั้งสอบสวนวินัยร้ายแรงได้เพียงอย่างเดียว เผื่อว่าตนได้กลับมาจะได้หาเรื่องมาทำให้ตนพ้นสภาพอีกครั้ง

ตนจึงมองว่าเป็นเจ้าพนักงานแต่ใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริต กลั่นแกล้งตน จะอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้เพราะดำรงตำแหน่งเป็นถึงผบ.ตร.จะโยนให้เจ้าหน้าที่คนอื่นไม่ได้ ดูได้จากการเปรียบเทียบคดีของตนกับคดีของพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล อดีตผบ.ตร.ที่เรื่องของตนเดินหน้าไปมากแล้ว แต่ของพล.ต.อ.ต่อศักดิ์กลับไม่คืบหน้าจนหมดระยะเวลาตั้งคณะกรรมการสอบภายใน 1 ปี เป็นการกระทำหลายมาตรฐาน

ดังนั้นในเมื่อตนเสียหายจากการใช้อำนาจของผบ.ตร.คนปัจจุบัน ตนจึงต้องมาฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางในวันนี้ และตนได้เตรียมฟ้องบุคคลที่เกี่ยวข้องอีกหลายกรรมต่างกัน การสอบสวนจะผิดถูกอย่างไรให้เป็นตามกระบวนการ และหลักนิติธรรม โดยภายหลังจากยื่นฟ้องเสร็จ และศาลได้นัดตรวจคำฟ้อง ในวันที่ 23 ธันวาคม เวลา 09.00 น.
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน