เป็นเพื่อนสนิทอีกคนของ นานา ไรบีน่า ที่เป็นผู้เสียหายที่ถูกหลอกให้ลงทุนเกี่ยวกับหุ้นถึง 3 ล้านบาท ล่าสุดวันที่ 3 ธ.ค.68 ดีเจดาด้า วรินดา ดำรงผล ได้เปิดใจถึงเรื่องดังกล่าว ว่าจะแจ้งความดำเนินคดีนานา หรือไม่ พร้อมทั้งตอบประเด็นข่าวลือ นานา-เวย์ จริงไหม
ทราบเรื่อง นานา มานานหรือยัง? รู้ความจริงพอๆ กับเจนี่ เห็นตอนที่ข่าวออกมา ตอนที่เพจท่านเปาเปิดอักษรย่อ ตอนนั้นเรายังแก้ตัวแทนเพื่อนเลย เพื่อนโกหกเราอีกทีนึง เราเชื่อใจเพื่อน แต่พอความจริงเปิดเผยว่ามีผู้เสียหายจริง เลยไปเคลียร์กับนานาเช้าวันเสาร์ เราได้รู้ความจริงทั้งหมด เพื่อนยอมรับว่าทำอะไรไปบ้าง วันนั้นก็รู้ว่าเราเป็นผู้เสียหายเหมือนกัน
นานา เอาเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ในสิ่งที่เราตั้งใจจะลงทุนไป ของด้า 3 ล้าน ได้มีการคุยกันว่าเอาเงินไปทำอะไร หลักๆ เหมือนในข่าวเลย เป็นเรื่องของการกู้เงินแล้วต้องเอาเงินไปทบดอกเบี้ย อันนี้คือสิ่งที่นานาบอกกับเรา ซึ่งเราก็มีการคุยกับนานาแล้ว ของเราไม่ได้เกี่ยวกับออกเงินกู้ แต่เกี่ยวกับเรื่องของการซื้อหุ้น สรุปแล้วไม่ได้เกิดขึ้นจริง ซึ่งอันนี้เดี๋ยวจะติดต่อทนายก่อน ยังลงรายละเอียดเยอะไม่ได้ เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องนัดทนาย ขอเคลียร์กันก่อน
เป็นรูปคดีไหม? ไม่ได้ไปแจ้งความค่ะ อยู่ในขั้นตอนของการที่จะดำเนินคดีไหม หรือเป็นการเซ็นรับสภาพหนี้ เดี๋ยวขอปรึกษาทนายก่อน ต้องยอมรับว่าวันที่รู้เพื่อนทำอะไรบ้าง แล้วเพื่อนโกหกเรา เราร้องไห้ ร้องไป 3 วันเหมือนคนอกหัก
สิ่งที่เขาพูดกับเราเป็นเรื่องไม่จริง เราก็เสียใจ หลังจากนั้นก็มาคิดว่าเงินของเราจะทำยังไง 30 ปีความสัมพันธ์ที่ผ่านมามันเป็นยังไงบ้าง ตอนนี้แยกได้แล้วหนี้ก็คือหนี้ เรื่องความเป็นเพื่อนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ถามว่าจะตัดไปได้เลยไหม ถามใจตัวเองก็คือไม่ได้โกรธไม่ได้เกลียดนานากับสิ่งที่เขาทำ แม่เราก็รู้จักแม่นานา เรากับนานาก็สนิทกันมากสมัยเด็กๆ วันที่คลอดลูกเราก็อยู่ในเหตุการณ์ มันก็มีความสัมพันธ์มานาน วันที่เรามีปัญหาเขาก็อยู่เป็นเพื่อนเรา
เพื่อนยังไงก็คือเพื่อน ถ้าจะตัดก็คงยาก เพราะลูกก็รู้จักกัน แต่ความสัมพันธ์หลังจากนี้จะสนิทกันเหมือนเดิมไหมก็ยังตอบไม่ได้ แต่เรื่องหนี้ก็คือหนี้ ก็คุยกันตรงๆ เขาขอโทษกับสิ่งที่เขาทำ เขารู้ว่าสิ่งที่เขาทำผิด หนี้ก็ต้องเคลียร์ วันนี้เพื่อนเราสำนึกผิดกับสิ่งที่ทำเขาบอกว่าเตรียมใจยอมรับ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อันนี้คุยกันเมื่อวันเสาร์ที่เคลียร์ใจกัน หลังจากนั้นนานาก็ยังโทรมาพูดคุยกัน ได้มีการคุยกันว่าหนี้ของเราจะใช้ยังไงบ้าง อยู่ในขั้นตอนของการเจรจากัน
วันที่เห็นเขาเดินเข้ากองปราบ รู้สึกยังไงบ้าง? เป็นเพื่อนที่สนิทคนนึง ไม่เคยคิดว่าเพื่อนจะมาถึงวันนี้ ยอมรับว่ามันจุกเหมือนกันกับภาพที่เห็น สิ่งที่กังวลที่สุดคือห่วงหลาน สภาพจิตใจของหลานทั้งสองคน เพราะเขาเริ่มโตแล้ว เข้าสู่วัยรุ่นแล้ว ยังไม่ได้คุยกับหลานเลย
มันมีฝั่งเพื่อนที่ฟ้องนานา เรามองยังไง? ถามว่าผิดไหม เขารักษาสิทธิ์ของเขา เขาไม่ผิดเลย โดนโกงก็ต้องรักษาสิทธิ์ของตัวเอง จะไปต่อว่าเขาไม่รักเพื่อนก็ไม่ได้ เงินแต่ละคนการหามามันเหนื่อย บางคนคือทั้งชีวิตของเขา ไม่ว่าจะปริมาณเงินเท่าไหร่ มันวัดไม่ได้ ในพาร์ตของเรา กำลังชั่งใจอยู่ว่า 3 ล้านที่เสียไปกับความสัมพันธ์ของเพื่อน ความไว้ใจไม่มีแล้ว แล้วถ้าเราไม่ได้ 3 ล้านคืนมา สำหรับเราลำบากไหม ยอมรับว่าเงินเก็บเราน้อยลง แต่เรายังมีโอกาสทำงานหาเงินก้อนใหม่ที่เข้ามาได้ ถามตัวเองว่าถ้าเงินนี้หายไปจะลำบากไหม มันไม่ได้ทำให้เราลำบากลง เลยชั่งใจอยู่ว่าจะไปแจ้งความหรือปล่อยให้เป็นคดีแพ่งเอา แต่ทุกคนก็อยากได้เงินคืนแหละ การทำพิธีกรเราพูดจนเสียงแหบ ขายของพูดจนเสียงแหบ กว่าจะได้เงินมา ยอมรับว่าเหนื่อยแหละ
ตามข่าวบอกว่านานาเป็นหนี้ 400 ล้าน? ตามที่ตำรวจแถลง 190 ล้าน ตัวเลขก็ต้องไปทางทนายของนานา (คำว่าฉ้อโกงมันใหญ่สำหรับคนบันเทิง มันสามารถพลิกอนาคตของเพื่อนเราได้เลย?) ก็ต้องยอมรับว่าสิ่งที่เขาทำไม่ถูกต้อง การโกหกเพื่อได้มาในผลประโยชน์ของตัวเองมันก็ไม่ถูกต้อง อันนี้ต้องว่ากันไปตามกฏหมาย เขาผิดเขาก็ต้องโดนดำเนินคดีตามกฎหมาย ในฐานะเพื่อนเราแค่ให้กำลังใจ แต่ถ้าวันนึงเพื่อนต้องรับผิดต้องเข้าคุกเขาต้องเจอกับชีวิตเขา เพราะเป็นผลจากการกระทำของเขา
หลายคนสงสัยว่าเวย์ (สามีนานา) อยู่ไหน? ยังไม่ได้คุยกับเวย์เลย เพราะปกติจะคุยกับนานามากกว่าเวย์ คุยกับเวย์ล่าสุดคือตอนที่ไปหานานาวันเสาร์ หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย ไม่ทราบเหมือนกันว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน
เขาหย่ากันจริงไหม? เราคุยกับนานามาตลอดในเรื่องนี้ จำไม่ได้ว่ากี่เดือน เขาเคยเอ่ยว่าเป็นเรื่องของธุรกิจ เขาเลยต้องมีการเซ็นหย่ากัน อันนี้เพื่อนเล่าให้ฟังแต่เราไม่ได้ถามต่อนะ ไม่แน่ใจว่าครบปีหรือยัง ตอนนั้นเพื่อนเอ่ยให้ฟังอัพเดตชีวิต เราก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็บอกว่า ไม่ๆ เป็นเรื่องของธุรกิจ ตอนนั้นเหมือนเพื่อนมาเอ่ยให้ฟังว่า อัพเดตชีวิตนะประมาณนี้ เราก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้น เขาบอก ไม่ๆ ปกติ ของธุรกิจเป็นเรื่องของธุรกิจ ตอนนั้นเพื่อนพูดแบบนี้ ซึ่งเรื่องจริงหรือเปล่าเราไม่รู้นะ
คนมองว่ามีการเตรียมตัวไว้แล้ว? อันนี้ด้าไม่รู้ แต่ถ้าเกิดในมุมว่าด้าเคยได้ยินไหม เคยได้ยิน ว่าเขามาอัพเดตให้ฟังแบบนี้
การหย่าเพื่อธุรกิจเป็นเรื่องปกติ? ประมาณนั้น เรามองว่าคู่อื่นๆ ที่เขาแต่งงานก็มีการหย่ากัน ในเรื่องของการเป็นนักธุรกิจ เราก็เห็นมันเป็นเรื่องปกติของนักธุรกิจหลายๆ คู่ที่เขาแต่งงานกัน ด้าก็เลยมองว่าไม่ได้เป็นสาระสำคัญหรือเรื่องใหญ่ ตอนนั้นก็ฟังผ่านๆ เพราะบ้านนี้เขาก็เป็นบ้านที่ทำธุรกิจ เราฟังผ่านๆ ไม่ได้ไปอินดีเทลว่ามันเกิดอะไรขึ้น
นานาเล่าให้ฟังไหมว่าเวย์เขารู้มั้ยว่าธุรกิจมีปัญหา? เรื่องว่าเวย์รู้ไหม นานาไม่ได้เล่าให้ฟัง แต่สำหรับด้าต้องยอมรับว่าสองปีที่ผ่านมาสิ่งที่นานาเล่าให้ฟัง มันก็ไม่ใช่เรื่องจริง เราก็รับรู้ในชุดที่ไม่ใช่ข้อมูลที่ถูกต้อง เราก็เลยยังสรุปอะไรไม่ได้ เพราะว่าสิ่งที่เรารับรู้มาสองปี เพื่อนบอกแบบนี้ เราเข้าใจมาแบบนี้ เราก็เข้าใจว่าโอเคเพื่อนมีหนี้ แต่ว่ามีเจ้าหนี้แค่คนเดียว อันนี้คือสิ่งที่ด้าได้รับรู้มา 2 ปีเท่านั้นเอง มันก็เลยทำให้เรารับรู้มาแบบนี้ แล้วด้าไม่เคยมีใครจะมาบอกว่านานามีหนี้นะ ไปยืมเงินคนเยอะแยะ ไม่เคยมีใครมาบอกกับด้าแบบนี้เลยตลอดระยะเวลาสองปี ไม่มีเลย
ข่าวบอกว่านานาขาดสภาพคล่องมา 2 ปี สิ่งที่เราเห็นเขาใช้ชีวิตที่ผ่านมามันเป็นแบบนั้นไหม? เขาก็มาบ่นแหละว่าเขาเป็นหนี้ แต่ว่าเป็นหนี้จากอะไร เขาก็บอกอีกแบบหนึ่งประมาณนั้น แต่เราก็รับรู้ว่าเพื่อนเป็นหนี้ ตอนนั้นรับรู้แต่ว่าเรารับรู้ว่าเพื่อนกำลังหาทางที่จะใช้อยู่ แต่ว่าเรารับรู้แค่ว่าเขามีเจ้าหนี้คนเดียว ตอนที่เขาบอกเราแบบนี้ ตอนนั้นระยะเวลา 2 ปีอัพเดตมาตลอดเป็นแบบนี้ เราก็เลยรับรู้ข้อมูลแค่นี้ ณ ตอนนั้น แต่พอความจริงมาเราก็ตกใจ อุ้ย เรื่องมันใหญ่มากเลย
ในมุมเพื่อนจริงๆ สำหรับด้ามองว่าคนมีหนี้ต้องใช้ เราต้องข้อสรุปที่มันดีที่สุด เราต้องถามก่อนผู้เสียหายอยากได้อะไร อยากได้เงินคืน หรือว่าอยากจะให้มีการดำเนินคดีแล้วติดคุกไป สำหรับพาร์ตด้า ถ้าถามด้าอยากได้เงินคืน เพราะฉะนั้นในข้อสรุปของด้าจริงๆ ด้าอยากให้นานาออกมาทำงาน แล้วก็มาใช้หนี้เพื่อนๆ ด้าว่าอันนั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับ การที่เราได้เงินคืนด้วย แล้วให้นานามีพื้นที่ในการทำงานสำหรับเราคิดแบบนั้น แต่ความคิดแต่ละคนไม่เหมือนกัน
พอจะทราบมั้ยว่ามีใครเข้าไปเยี่ยมหรือครอบครัวจะประกันตัวไหม? ตอนนี้ยังไม่ทราบเลย ด้าถ่ายละครด้วย แล้วก็กลับมาทำรายการ ยังไม่ได้โทรคุยกับทางครอบครัวนานาว่าเป็นยังไงบ้าง
ลานดนตรีจะทำคอนเสิร์ต เป็นทรัพย์สินของเขาเองไหม? Land of music ใช่มั้ยคะ อันนี้รายละเอียดเราไม่รู้ แต่เราก็รู้ว่าเพื่อนมีรีสอร์ท เราก็มีโอกาสได้ไป เพื่อนทำรีสอร์ท แต่รายละเอียดว่าเป็นทรัพย์สินของใคร ยังไม่ได้ลงดีเทลตรงนั้น แล้วก็บริเวณที่เขาจัดคอนเสิร์ต มันก็จะเป็นบริเวณกว้างๆ ตรงนั้นทั้งหมดในการจัดคอนเสิร์ต รีสอร์ทของเขาด้าก็เคยไป เรื่องใครเป็นเจ้าของพื้นที่จริงๆ ไม่ทราบ ตอนนั้นเขาก็บอกว่าทำรีสอร์ทแค่นั้นเลย เราก็ไปเที่ยวรีสอร์ทเพื่อน
อยากฝากบอกครอบครัวเพื่อนมั้ย? มันจุก แล้วมันก็พูดอะไรไม่ออก ณ ตอนนี้ ไม่เคยคิดว่าเพื่อนที่เราสนิทจะมาเป็นภาพแบบนี้ เราไม่รู้จะพูดอะไร รู้สึกว่าถ้าวันนึงเพื่อนจะต้องได้รับ ผลที่เขาทำ ด้าว่านานาก็ต้องทำใจ ก็ต้องยอมรับกับมัน ถ้าวันนึงสมมติมีโอกาสได้ประกันตัวออกมา มีโอกาสออกมาทำงานใช้หนี้ ก็ยังยืนยันว่านานายังไงก็ต้องใช้หนี้ให้กับทุกคน เพราะมันก็เป็นหน้าที่ ลูกหนี้ก็ต้องใช้หนี้ให้กับเจ้าหนี้
สำหรับด้ามองว่าก็อยากให้เพื่อนได้ประกันตัว ออกมาทำงาน มาคุยเจรจากันว่าจะมีการชดใช้กับเจ้าหนี้ยังไงบ้าง หรือเคลียร์กันว่าดอกเบี้ยที่จ่ายไปแล้วมันจะชดใช้ยังไง ขั้นตอนนี้เราไม่รู้ผู้เสียหายเขาเจรจากันแล้วหรือยัง แต่อย่างในพาร์ทด้า ยังไม่ได้คุยกันแบบไฟนอลสุดท้ายจริงๆ ว่าจะยังไงบ้าง