วันที่ 20 ธ.ค. 2568 ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.5 กก.6 บก.ทล. ร่วมกันจับกุม
1.นายณัฐพงษ์ อายุ 30 ปี (ผู้ขับขี่รถกระบะตู้ทึบ)
2.นางแม๊ก อายุ 19 ปี (ราษฎร สปป.ลาว)
รถที่ถูกตรวจยึด
1. รถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้า สี จำนวน 1 คัน
2. รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อHONDA สี น้ำเงิน-ดำ รุ่น WAVE 110I จำนวน 1 คัน
3. รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ HONDA สี ดำเทา รุ่น WAVE 110I จำนวน 1 คัน
4. รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ HONDA สี ขาว-แดง รุ่น WAVE110I จำนวน 1 คัน
5. รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ HONDA สี ชมพู-ขาว รุ่น SUPER CUB จำนวน 1 คัน
6. รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ HONDA สี ดำ-เทา รุ่น WAVE125I จำนวน 1 คัน
7. รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ HONDA สี ขาว รุ่น LEAD125 จำนวน 1 คัน
8. รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ HONDA สี ดำ-ส้ม รุ่น ZOOMER-X จำนวน 1 คัน
สามารถจับกุมได้ที่ บริเวณหน้าปั๊ม ปตท.ป่าติ้ว ทล.202 กม.289-290 ต.โพธิ์ไทร อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.5 กก.6 บก.ทล. ได้รับแจ้งเบาะแสจากสายลับว่าจะมีการลักลอบขนย้ายรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยในพื้นที่รับผิดชอบ จึงได้ออกตรวจสอบตามเส้นทางที่ได้รับแจ้ง กระทั่งเวลาประมาณ 18.00 น. พบรถกระบะตู้ทึบ ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ขับขี่มุ่งหน้าเข้าอำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร เจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณให้จอดเพื่อตรวจสอบจากการตรวจสอบ พบผู้ขับขี่ชื่อ นายณัฐพงษ์ฯ และมีบุคคลสัญชาติลาวนั่งโดยสารมาด้วย ซึ่งแจ้งว่าเป็นภรรยาของผู้ขับขี่ เจ้าหน้าที่ได้แสดงตนและขอตรวจสอบภายในรถ โดยผู้ขับขี่ยินยอมให้ตรวจค้นด้วยความสมัครใจ

ผลการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าภายในรถบรรทุกรถจักรยานยนต์จำนวนหลายคัน เจ้าหน้าที่จึงขอให้ผู้ขับขี่นำรถไปตรวจสอบอย่างละเอียด ณ หน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงยโสธร ซึ่งผู้ขับขี่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จากการตรวจสอบโดยละเอียด พบรถจักรยานยนต์จำนวน 7 คัน ผู้ขับขี่ไม่สามารถแสดงเอกสารแสดงที่มาหรือชี้แจงปลายทางการขนส่งได้อย่างชัดเจน อีกทั้งไม่สามารถติดต่อผู้รับรถได้ มีพฤติการณ์อันควรสงสัย โดยให้การว่า ได้รับการว่าจ้างผ่านแอปพลิเคชัน LINE จากบุคคลใช้นามว่า BOW (ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง) ให้ไปรับรถจักรยานยนต์จากพื้นที่อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ โดยจะได้รับค่าจ้างขนส่งครั้งละ 8,000 บาท

เมื่อส่งรถถึงผู้รับและมีการถ่ายภาพยืนยันการส่งมอบแล้ว ผู้ขับขี่ยังให้การเพิ่มเติมว่า ในครั้งนี้ได้รับคำสั่งให้นำรถจักรยานยนต์ไปส่งในพื้นที่อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร แต่ขณะถูกตรวจยึดไม่สามารถติดต่อผู้ว่าจ้างได้ และยังไม่ได้รับค่าจ้างแต่อย่างใด จากการตรวจสอบเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ไม่สามารถติดต่อเจ้าของรถจักรยานยนต์ทั้ง 7 คันได้ จึงได้ตรวจยึดรถยนต์และรถจักรยานยนต์ทั้งหมดไว้เพื่อตรวจสอบ เนื่องจากเป็นทรัพย์สินที่มีพฤติการณ์อันควรสงสัยว่าอาจได้มาโดยมิชอบ หรืออาจเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด โดยผู้ขับขี่ได้ยินยอมให้ตรวจยึดด้วยความสมัครใจ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้จัดทำบันทึกการตรวจยึด และส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรป่าติ้ว จังหวัดยโสธร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

ทั้งนี้ ผู้ขับขี่ให้การรับสารภาพว่า เคยรับจ้างขนส่งรถจักรยานยนต์ในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง โดยรับงานผ่านแอปพลิเคชัน LINE รูปแบบเดียวกัน ได้รับค่าจ้างครั้งละ 8,000 บาท เมื่อส่งรถถึงมือผู้รับเรียบร้อยและจากการสืบสวนเชิงลึกเพิ่มเติม พบว่ารถจักรยานยนต์ที่ตรวจยึดได้ส่วนใหญ่ยังอยู่ระหว่างการเช่าซื้อ บางคันเพิ่งเช่าซื้อมาได้เพียงไม่กี่วัน ก่อนถูกนำเข้าสู่ขบวนการลักลอบจำหน่ายให้กับเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งมีแหล่งรับรถจากพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล ภาคกลาง และภาคตะวันออก ก่อนลำเลียงออกนอกราชอาณาจักรไปยังประเทศเพื่อนบ้าน (สปป.ลาว) โดยมักใช้ช่วงเวลากลางคืนในการขนส่ง

ขบวนการดังกล่าวมีการแบ่งหน้าที่อย่างเป็นระบบ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่
1. กลุ่มจัดหารถจักรยานยนต์หรือจัดหาบุคคลมาเช่าซื้อ รวมถึงรถผิดกฎหมาย
2. กลุ่มผู้ขนส่งและนำทาง
3. กลุ่มนายทุนและผู้ประสานงาน ทำหน้าที่ควบคุมและสั่งการ
นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการติดต่อสื่อสารและสั่งการผ่านแอปพลิเคชัน LINE และ Telegram หลายกลุ่ม มีแอดมินคอยแจ้งพิกัด เส้นทาง และช่วงเวลาเดินรถอย่างเป็นระบบ สะท้อนถึงลักษณะของขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติที่มีการวางแผนอย่างเป็นขั้นตอน ปัจจุบัน เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งสืบสวนขยายผลไปยังกลุ่มนายทุน ผู้ว่าจ้าง และเครือข่ายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด พร้อมทั้งย้ำเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการรับจ้างขนส่งทรัพย์สินโดยไม่ทราบที่มา เพื่อป้องกันการเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดโดยไม่รู้ตัว
โดยในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ตำรวจทางหลวง กก.6 บก.ทล. สามารถตรวจยึดรถจักรยานยนต์ที่อยู่ระหว่างการเช่าซื้อและบางคันอาจจะถูกโจรกรรมมา ได้ทั้งหมด 22 คัน หากต้องการติดต่อสอบถามข้อมูลรถจักรยานยนต์ ทั้ง 22 คัน สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนตำรวจทางหลวง โทร 1193 หรือ Facebook ตำรวจทางหลวง
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน