วันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 ภายใต้การอำนวยการของนายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นายเอกชัย เกษมสุขธวัช รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. รักษาราชการแทน รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. และ พ.ต.ท.สราวุธ คำเหลือง ผู้อำนวยการกองอำนวยการต่อต้านการทุจริต มอบหมายให้ พ.ต.ต.จักรกฤษณ์ ประจันพล ผู้อำนวยการกลุ่มงานอำนวยการด้านคุ้มครองพยาน นำกำลังเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. นำโดย พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปปป. ติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ ดังนี้

1. นางสาวธนัตถ์อรฯ (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 1 ที่ 21/2568 ลงวันที่ 14 กรกฎาคม 2568 สืบเนื่องจากเมื่อครั้งผู้ต้องหาดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าพนักงานธุรการ โรงพยาบาลปทุมธานี กระทำการทุจริตบันทึกเวลาปฏิบัติงานนอกเวลาอันเป็นเท็จและปลอมลายมือชื่อขอแพทย์ จำนวน 10 ราย เพื่อขออนุมัติเบิกเงินค่าตอบแทนทำการนอกเวลา (ค่าล่วงเวลา) ประจำเดือนตุลาคม 2558 เดือนพฤศจิกายน 2558 และเดือนธันวาคม 2558 เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 531,450 บาท เพื่อนำเงินจำนวนดังกล่าวมาเป็นของผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้อื่นโดยทุจริต

2. นางสาวสุดารัชฯ (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ที่ 52/2568 ลงวันที่ 4 กันยายน 2568 สืบเนื่องจาดเมื่อครั้งผู้ต้องหาดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูล สำนักงานขนส่งจังหวัดสมุทรปราการ สาขาอำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ อาศัยโอกาสที่ตนเองมีหน้าที่ดังกล่าว ดำเนินการบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับการขอใบอนุญาตให้แก่ผู้มาขอรับบริการ เพื่อดำเนินการออกคำขอรับใบอนุญาตไม่ถูกต้องครบถ้วนตามขั้นตอนและระเบียบของกรมการขนส่งทางบก ในช่วงระหว่างเดือนสิงหาคม 2560 ถึงเดือนพฤศจิกายน 2560 เป็นจำนวนรวม 51 ราย ส่อไปในทางทุจริตและประพฤติมิชอบ

ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าวของผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 2 ราย เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ ต่อมาคณะกรรมการ ป.ป.ท. มีมติชี้มูลความผิด แต่ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 2 ราย ไม่มาพบพนักงานอัยการ เพื่อยื่นฟ้องต่อศาลตามกำหนดนัด พนักงาน ป.ป.ท. จึงได้ขอออกหมายจับเพื่อติดตามตัวผู้ต้องหามาฟ้องคดีต่อศาล โดยเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ท. ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ กระจายกำลังกันจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี และจังหวัดสมุทรปราการ นำตัวส่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมงานสยามนิวส์ รายงาน