จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ทรัพย์สินเงินสด 10 ล้านบาท ทองคำหนัก 250 บาท มูลค่า 12 ล้านบาท หายไปจากกุฏิของเจ้าอาวาสวัดม่วง ย่านบางแค กทม. โดยไวยาวัจกรของวัดเข้าแจ้งความที่ สน.เพชรเกษม เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2568 ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านั้น

ล่าสุด วันที่ 3 กรกฎาคม 2568 เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เข้ามาตรวจสอบที่วัดม่วง โดยปฏิเสธให้ข้อมูล ตอบเพียงว่า เดินทางมาตรวจสอบข้อมูลการเงินของวัด

ในขณะที่เจ้าอาวาสวัดม่วง ยืนยันว่า เงินที่หายไปเป็นปัจจัยที่เบิกมา เพื่อเตรียมนำมาทำบุญวันเกิด โดยจะนำเงินส่วนนี้ไปแจกให้กับเด็กนักเรียน นำไปนิมนต์พระมาทำบุญ รวมถึงจะนำบางส่วนไปใช้ในการก่อสร้างเจดีย์ ซึ่งวันที่ไปเบิกเงินที่ธนาคาร ได้เดินทางไปกับคนสนิท 2 คน เบิกเงินจำนวน 10 ล้านบาท

หลังจากนั้นเดินทางกลับและนำปัจจัยใส่กระเป๋าวางไว้ใต้โต๊ะในกุฎิของตัวเอง เนื่องจากภายในเซฟเก็บเงินของวัดไว้ จึงไม่ต้องการนำไปรวม และตัวเองรู้ที่เก็บเงินเพียงคนเดียว ยืนยันมีการแยกบัญชีระหว่างเงินส่วนตัวและเงินของวัด

ในส่วนเงินของวัดจะมีกรรมการและไวยาวัจกรดูแล แต่เงินของตัวเองซึ่งเก็บมากว่า 40 ปี และมีอยู่ประมาณ 20 ล้านบาท ได้มีการเปิดบัญชีส่วนตัวเป็นชื่อของตัวเอง

ส่วนกรณีมีการใช้กระดาษไปปิดบังหน้ากล้องวงจรปิด เจ้าอาวาสวัดม่วง ยืนยันว่า ตัวเองนำไปปิดจริง เพราะกังวลจะมีภาพที่ไม่เหมาะสมขณะที่ตัวเองกำลังเปลี่ยนจีวรเผยแพร่ออกไป ซึ่งตัวเองจะเอากระดาษออกก็ต่อเมื่อมีการเดินทางไปต่างประเทศ