นิสสันขาดทุนหนักสุดในรอบ 25 ปี ปิด 7 โรงงานทั่วโลก ยุบรวมฐานผลิตในไทย

นิสสัน มอเตอร์ ประกาศแผนปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ หลังขาดทุนสุทธิสูงถึง 4.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีงบประมาณ 2024 ซึ่งเป็นตัวเลขขาดทุนสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1999 สาเหตุหลักมาจากยอดขายที่ตกต่ำในสหรัฐฯ และจีน ขณะเดียวกันยังเผชิญแรงกดดันจากต้นทุนที่สูงและภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นในยุคของโดนัลด์ ทรัมป์

ยุบโรงงาน 7 แห่งทั่วโลก – ไทยก็โดน

อีวาน เอสปิโนซา ซีอีโอคนใหม่ของนิสสันวัย 46 ปี เปิดเผยว่า บริษัทเตรียม ปิดโรงงาน 7 แห่งจากทั้งหมด 17 แห่งทั่วโลก พร้อม ลดกำลังการผลิตลงจาก 3.5 ล้านคัน เหลือ 2.5 ล้านคันต่อปี สำหรับประเทศไทย นิสสันจะมีการ ยุบรวมโรงงาน ที่มีอยู่ เพื่อลดต้นทุนและปรับให้เหมาะกับกำลังการผลิตที่แท้จริง

นอกจากนี้ นิสสันยังจะ ย้ายการผลิตจากอาร์เจนตินาไปบราซิล และมีแผน เลิกจ้างพนักงานเพิ่มอีก 11,000 คน ต่อจากที่ประกาศไปแล้ว 9,000 คน ส่งผลให้พนักงานทั่วโลกต้องออกจากงานรวมกว่า 20,000 คน หรือคิดเป็น 15% ของกำลังคนทั้งหมด

นิสสันยังได้รับผลกระทบจาก ภาษีนำเข้ารถยนต์ 25% ของสหรัฐฯ ซึ่งกระทบกับรถยนต์ที่ผลิตจากญี่ปุ่นและเม็กซิโกโดยตรง ขณะที่ต้นทุนด้านการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ เช่น รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และระบบขับขี่อัจฉริยะ ก็สูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้บริษัทต้องเร่งปรับลดค่าใช้จ่าย พร้อมตั้งเป้าหมายลดต้นทุนให้ได้ 500,000 ล้านเยน ภายในปี 2027

แม้การเจรจาควบรวมกิจการกับฮอนด้าจะล้มเหลวไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่นิสสันยังเปิดรับความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับบริษัทอื่น ๆ โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ เพื่อลดภาระในการลงทุน และเร่งขับเคลื่อนแผนฟื้นฟูธุรกิจ

เอสปิโนซากล่าวปิดท้ายว่า

การตัดสินใจครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มันจำเป็น หากเราไม่ทำตอนนี้ สถานการณ์อาจเลวร้ายกว่านี้ในอนาคต