วันที่ 22 ธ.ค. 67 ที่ จ.สุราษฎร์ธานี มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก โพสต์ข้อความ บอกเล่าประสบการณ์เข้ารักษาในโรงพยาบาล ในห้องฉุกเฉินนั้นเราเจอกับอะไรบ้าง

คืนวันที่ 11 เรารู้สึกหายใจไม่ออกแน่นหน้าอกหายใจไม่อิ่ม ไม่เต็มที่ มาระยะหนึ่งแล้ว แต่คืนนี้คือหนักกว่าทุกครั้งจนตัดสินใจไป รพ เช้าวันที่ 12 ธ.ค. ไปถึงประมาณ 6 โมง กดบัตรคิวแต่รู้ตัวว่าตัวเองไม่ไหว เลยบอกแฟนว่าขอเข้าห้องฉุกเฉินเลย ไปถึงไม่พบใครสักคน เลยกดกริ่งเรียกก็ค่อยๆ มีคนเดินออกมา สภาพงัวเงียเหมือนเพิ่งตื่น ถามว่าเราเป็นอะไรมา เราบอกว่าแน่นหน้าอกหายใจไม่ออกมาทั้งคืน แล้วมีหมอคนหนึ่งถามว่า หอบรู้ได้ไงว่าเป็นหอบ ใครบอก เราตอบก็หอบอยู่นี่ไง ไม่รู้หรอกว่าเป็นโรคหอบไหม แต่ตอนนี้รู้สึกหอบมาก

หลังจากนั้นอาการมันก็เพิ่มขึ้น หายใจเร็วเหมือนจะขาดใจ เราบอกเราอยู่ในห้องนี้ไม่ไหวแล้ว หายใจไม่ออก ผู้ช่วยบอกคิดไปเอง มันไม่ได้อะไรขนาดนั้น สายตาทุกคนตอนนั้นคือเราเเกล้งเป็น

หลังจากนั้นจะพาเราเข้าห้องดมยา เข้าไปแป๊บเดียวเรารู้สึกมันแน่น มันมัว เหมือนจะน็อก เขาเอาเราออกมาจากห้อง ให้มานั่งบนเตียงเรากระวนกระวายทำอะไรไม่ถูก แล้วตอนนั้นเผลอกรี๊ดออกมา เพราะมันไม่ไหว

หมอคนเดิมตะโกนว่า กรี๊ดทำไม บ้าเปล่า เราบอกขอร้อง ช่วยเราที เราไม่ไหวแล้ว แต่ละคนก็คืออาการทองไม่รู้ร้อนใดๆ จนสติสุดท้ายเราตัดจบแค่นั้น รู้อีกทีถูกส่งตัวมาอีก รพ. ใส่ท่อเรียบร้อยอยู่ใน icu หลายวัน

สรุปคือน้ำท่วมปอด ความดัน 200 กว่า เป็นอะไรไม่ใช่ประเด็น แต่ประเด็นคือ การเข้ารับการรักษา ในตอนแรกอยากให้ รพ. สนใจคนไข้ให้มากกว่านี้ ไม่มีใครแกล้งเพื่ออยากไปนอนรพ.หรอก ทุกคนมีภาระหน้าที่ ถ้าวันนั้นเราไม่โชคดีที่รอดมาได้ คุณจะรับผิดชอบกับเรื่องนี้ยังไง อยากให้ลองนึกว่าคนไข้ที่ไปหาคุณคือ พ่อ แม่ พี่น้องคุณดูนะ คุณจะกระตือรือร้นมากกว่านี้ไหม

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของผู้โพสต์ พบกับหญิง อายุ 31 ปี เจ้าของโพสต์ กล่าวว่า ที่ตนเองโพสต์ เพราะอยากเล่าประสบการณ์ที่ได้เจอ ซึ่งตนไม่ได้ต้องการเรียกร้องสิ่งใด เพียงแค่อยากสะท้อนปัญหาที่พบเจอ ซึ่งภายหลังจากที่ตนโพสต์ก็มีผู้คนเข้ามาคอมเมนต์เล่าถึงประสบการณ์ที่ไม่ค่อยดีแบบนี้ต่างๆนาๆ

ล่าสุด ผอ. โรงพยาบาลดังกล่าว ได้ทราบเรื่องแล้ว และได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเบื้องต้นมีตัวแทนโรงพยาบาล นำกระเช้าเข้าไปเยี่ยมให้กำลังใจ และแสดงความรับผิดชอบ ในสิ่งที่ผู้ป่วยไม่สบายใจ และเป็นการสะท้อนให้นำเรื่องที่ยังบกพร่อง ไปตรวจสอบ เพื่อปรับปรุงการให้บริการต่อไป