สุดมากคนนี้! ตร. เผย วีรกรรม นานา ที่คนธรรมดาไม่กล้าทำ
ข่าวบันเทิง

สุดมากคนนี้! ตร. เผย วีรกรรม นานา ที่คนธรรมดาไม่กล้าทำ

วันที่ 3 ธันวาคม 2568 พลตำรวจตรีทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญกรรมทางเศรษฐกิจ เปิดเผยภายหลังควบคุมตัวนางไรบีนา อินทชัย หรือ นานา ไรบีนา มาสอบปากคำที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ฐานความผิดฉ้อโกงทรัพย์ และกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนว่า ขณะนี้ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ แต่จากการสืบสวนสอบสวนพยานทั้งหมด 17 ปาก สามารถขออนุญาตศาลอาญาที่ 7195/2568 ออกหมายจับในวันที่ 2 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา

พฤติการณ์มีผู้เสียหายจำนวน 17 ราย ได้มาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กรณีเมื่อประมาณเดือนตุลาคม 2565 ได้ถูกดาราสาวชื่อดัง ชักชวนให้ร่วมลงทุนในธุรกิจต่าง ๆ ใน 4 กิจกรรม ได้เเก่

1. ธุรกิจปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคล เสนอผลตอบแทนสูงร้อยละ 4-7 ต่อเดือน

2. ลงทุนเทรดหุ้นกับผู้มีชื่อเสียงในวงการเทรดหุ้น

3. ลงทุนร้านอาหารที่สหรัฐอเมริกา

4. ลงทุนสร้างสนามบาสเกตบอล

ซึ่งผู้ต้องหาได้ชักชวนกลุ่มเพื่อนสนิท บุคคลใกล้ชิด และกลุ่มผู้ปกครองในโรงเรียนนานาชาติ โดยอาศัยความเชื่อใจและความน่าเชื่อถือประกอบกับมีการแอบอ้างผู้มีชื่อเสียงในแวดวงธุรกิจ ทำให้กลุ่มผู้เสียหายหลงเชื่อ โอนเงินร่วมลงทุนกับผู้ต้องหา

หนึ่งในผู้เสียหายคือ เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ ได้เข้าแจ้งความและให้การกับตำรวจว่า มีการชวนไปลงทุนร้านอาหารในประเทศสหรัฐอเมริกามูลค่า 3 ล้านบาท แต่สุดท้ายไปตรวจสอบไม่มีการลงทุนจริง คดีนี้มีผู้เสียหายที่เป็นคนมีชื่อเสียงหลายราย แต่ไม่ประสงค์จะเป็นข่าว

ในระยะแรกผู้เสียหายบางรายได้รับผลตอบแทนตามที่เสนอจริง ประกอบกับผู้ต้องหาได้นำหลักฐานการโอนเงินปลอม และเอกสารการโอนหุ้นปลอมมาแสดงต่อผู้เสียหาย ทำให้ผู้เสียหายเกิดความเชื่อมั่น และหลงเชื่อลงทุนกับผู้ต้องหาเรื่อยมา

ต่อมาเมื่อประมาณเดือน ก.พ.2568 ผู้ต้องหาเริ่มไม่จ่ายผลตอบแทนให้กับผู้เสียหาย โดยอ้างว่าบัญชีเงินถูกหน่วยงานของรัฐระงับการทำธุรกรรม จึงไม่สามารถดำเนินการจ่ายคืนเงินลงทุน และปันผลการลงทุนได้ เมื่อถูกทวงถามได้ออกเช็คเงินสดเพื่อจะชำระเงินลงทุนและเงินปันผลคืนให้กับผู้เสียหาย โดยเมื่อนำเช็คเงินสดไปเรียกเก็บกับธนาคาร กลับถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คเนื่องจากไม่มีเงินในบัญชี และภายหลังได้ทราบว่าบุคคลมีชื่อเสียงที่ถูกผู้ต้องหากล่าวอ้างนั้น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลงทุนที่ผู้ต้องหาชักชวนแต่อย่างใด ผู้เสียหายเชื่อว่าถูกหลอกลวง จึงเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายรวมกว่า 190 ล้านบาท

พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ ระบุต่อว่า จากการสืบสวนสอบสวน พบว่านอกจากพฤติการณ์ในการชักชวนระดมทุนแล้ว ผู้ต้องหายังมีการปลอมหลักฐานสลิปการโอนเงิน ปลอมแปลงเอกสารการโอนหุ้นบริษัทร้านตัดผมชื่อดัง ซึ่งผู้ต้องหาเป็นเจ้าของอยู่ และจากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบว่าผู้ต้องหาไม่ได้มีการนำเงินไปลงทุนในธุรกิจต่าง ๆ ตามที่กล่าวอ้าง โดยผู้ต้องหามีการทำธุรกรรมเบิกถอนเงินสดที่ธนาคารเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ ยังมีการนำเงินลงทุนที่ได้รับมา ไปหมุนเวียนจ่ายเป็นผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุนรายอื่น ซึ่งลักษณะดังกล่าวเข้าข่ายเป็นความผิดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐาน และยื่นคำร้องต่อศาลขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาไว้

ต่อมาเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปอศ. ได้นำหมายค้นของศาลอาญากรุงเทพใต้ เข้าตรวจค้นบ้านพักผู้ต้องหาในหมู่บ้านหรู ซอยเอกมัย เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร และสามารถจับกุม นางไรบีนา บุคคลตามหมายจับได้ พร้อมทั้งได้ตรวจยึดพยานเอกสาร และพยานวัตถุที่น่าสนใจ ดังนี้

1. โทรศัพท์ iPhone 7 เครื่อง

2. Art toy bearbrick และอื่น ๆ 11 กล่อง

3. Ledger-nano-x (hardware wallet) 1 ชิ้น

4. กระเป๋า Hermès Birkin 1 ใบ

5. กระเป๋า Louis Vuitton 1 ใบ

6. จิวเวอรี่ แบรนด์ต่าง ๆ ประมาณ 50 ชิ้น

7. รถยนต์ Mini Cooper รุ่น Aceman สีขาว 1 คัน มูลค่ารวมนับ 10 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังตรวจสอบพบการถือครองอสังหาริมทรัพย์ โฉนดที่ดินใน จ.อ่างทอง จำนวน 1 แปลง พื้นที่ 64 ตร.วา และโฉนดที่ดิน กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 แปลง พื้นที่ 87.9 ตร.วา ซึ่งจะได้ดำเนินการตรวจสอบการได้มา และได้นำตัวผู้ต้องหา พร้อมสิ่งของตรวจยึด นำส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

อย่างไรก็ตาม ความผิดตาม พ.ร.ก.กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งคือแชร์ลูกโซ่ เป็นความผิดมูลฐานฟอกเงิน ได้รายงานความผิดมูลฐานไปยัง ปปง. แล้ว ส่วนทรัพย์ที่เกี่ยวข้องต้องพิจารณาว่าได้มาก่อน หรือหลังการกระทำความผิด ซึ่งความผิดหลักเกิดขึ้นประมาณเดือนกันยายนปี 2565 ต้องตรวจยึดทรัพย์ทั้งหมด และส่งให้ ปปง. ดำเนินการ

ส่วนสามีของ นานา ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ แต่รายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้ ตำรวจยืนยันจะตรวจสอบในทุกมิติ ส่วนกรณีที่ทนายสายหยุด นำตัว นานา มาพบตำรวจเมื่อวันจันทร์ที่ 1 ธ.ค. 2568 ที่ผ่านมา แต่อ้างว่าไม่มีการรับมอบตัว พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ ระบุว่าขณะนั้นเป็นช่วง 17.00 น. อยู่นอกเวลาราชการ

อย่าไรก็ตาม ขณะนั้นพนักงานสอบสวนยังไม่ได้ออกหมายจับ ทำให้ยังไม่มีอำนาจควบคุมตัว ซึ่งวันดังกล่าวเจ้าหน้าที่ไม่ได้เห็นตัว นานา มีเพียงทนายสายหยุด มาส่งเอกสาร ซึ่งการจะออกหมายเรียกหรือหมายจับเป็นดุลพินิจของพนักงานสอบสวน แต่คดีนี้อัตราโทษโทษเกิน 3 ปี พนักงานสอบสวนสามารถขอออกหมายจับได้เลย ไม่จำเป็นต้องออกหมายเรียก