วันที่ 22 ธันวาคม สมเด็จฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Samdech Hun Sen of Cambodia พร้อมเผยแพร่คลิปวิดีโอ โดยระบุว่า เป็นการประกาศถึง 3 ความอยุติธรรมที่ # กัมพูชา เผชิญจากความขัดแย้งระหว่างกัมพูชา-ไทย พร้อมย้ำว่า ชาติ รัฐ และสถาบัน จำเป็นต้องยืนหยัดและต่อสู้ร่วมกัน เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับกัมพูชา
ในคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ นายฮุน เซน ระบุสาระสำคัญซึ่งแปลเป็นภาษาไทยได้ว่า เกียรติยศและศักดิ์ศรีของประเทศกำลังถูกทำร้าย โดยกองทัพไทยและรัฐบาลไทย # เขมร ถูกรุกราน แต่กลับถูกกล่าวอ้างว่า เป็นฝ่ายป้องกันตนเองจากการคุกคามของเรา
เขมรถูกรุกราน แต่มีการสร้างเรื่องเล่าใหม่ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นคือการรณรงค์ปราบปรามการหลอกลวงทางออนไลน์ เขมรถูกรุกราน แต่กลับถูกกดดันให้ต้องประกาศหยุดยิงเพียงฝ่ายเดียว นี่คือความอยุติธรรมที่ซ้อนทับกันถึงสามชั้น และนอกเหนือจากนั้น ยังมีแรงกดดันที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดังต่อไปนี้
ประเทศขนาดเล็กอย่างกัมพูชา ถูกบีบให้ยอมรับการบิดเบือน เพื่อเอาใจมหาอำนาจที่ใหญ่กว่า นี่คือความจริงอันโหดร้ายของการเมืองระหว่างประเทศ ความยุติธรรมไม่ได้เกิดขึ้นเองโดยอัตโนมัติสำหรับผู้ที่อ่อนแอ การพูดความจริงเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ หลักฐานเพียงอย่างเดียวก็ไม่เพียงพอ ความทุกข์ทรมานที่ต้องแบกรับเพียงลำพัง ไม่มีใครมองเห็น
อำนาจเป็นผู้ตัดสินว่าใครถูกใครผิด อำนาจเป็นผู้กำหนดว่า เรื่องราวของฝ่ายใดจะได้รับการยอมรับว่าเป็นความจริง อำนาจเป็นผู้ชี้ว่า ความเจ็บปวดและการสูญเสียของใครสมควรถูกยกย่อง
เมื่อกัมพูชาปกป้องตนเอง กลับถูกกล่าวหาว่าเป็นการยั่วยุให้เกิดความขัดแย้ง เมื่อกัมพูชาแสดงความยับยั้งชั่งใจ ก็มักถูกมองว่าอ่อนแอ เมื่อกัมพูชาเรียกร้องความยุติธรรม สิ่งที่ได้รับกลับเป็นคำขอให้มีความอดทน
สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่การบีบให้กัมพูชายอมรับความอยุติธรรมอย่างเงียบ ๆ หรอกหรือ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ความขัดแย้งครั้งนี้ได้สร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงให้กับกัมพูชา แต่ถึงอย่างนั้น เราต้องไม่ยอมแพ้ ความเจ็บปวดที่ไร้ทิศทาง จะนำไปสู่ความสิ้นหวัง แต่ความเจ็บปวดที่มีเป้าหมาย และเปี่ยมด้วยความมุ่งมั่น สามารถแปรเปลี่ยนเป็นพลังของชาติได้
หนทางข้างหน้าของกัมพูชา คือการเสริมสร้างความเข้มแข็งของประเทศในทุกมิติ เราจำเป็นต้องลงทุนในศักยภาพของตนเองให้มากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านการพัฒนาเครื่องมือทางการทูตให้มีความเฉียบคม เพื่อเปิดโปงเรื่องเล่าเท็จ กัมพูชาต้องสร้างเศรษฐกิจที่ยืดหยุ่นและแข็งแกร่ง ต้องเสริมสร้างความยุติธรรมทางสังคม และต่อต้านการทุจริตอย่างจริงจัง ต้องเปลี่ยนความเจ็บปวดให้กลายเป็นพลัง ผ่านการเพิ่มผลผลิตภายในประเทศ และการยกระดับแรงงานฝีมือ รวมถึงการพัฒนาขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีและการทหาร
ตลอดจนการจัดตั้งคลังสำรองเชิงยุทธศาสตร์ สิ่งที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน คือการสร้างความสามัคคีของชาติ เพราะสังคมที่แตกแยก ย่อมตกเป็นเป้าถูกรังแกได้ง่าย ประเทศที่ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง ย่อมถูกครอบงำได้โดยไม่ยาก แม้รัฐ ประชาชน สถาบัน และสื่อ จะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน แต่ไม่ควรหันมาเป็นศัตรูต่อกันเอง กัมพูชาจำเป็นต้องรวมพลังเป็นหนึ่งเดียว เพราะความยุติธรรมไม่เคยปรานีต่อผู้ที่อ่อนแออย่างแท้จริง