วันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 สำนักข่าวต่างประเทศ ขแมร์ไทมส์ ของกัมพูชา รายงานว่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนกัมพูชา (CHRC) ได้ออกแถลงการณ์ยื่นคำร้องต่อองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และหน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนระดับภูมิภาค เรียกร้องให้มีการสอบสวนอย่างอิสระเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่กัมพูชาอ้างว่ากองทัพไทยยิงเข้าไปในพื้นที่บ้านเปรยจัน จังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชา ส่งผลให้พลเรือนเสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 3 ราย
CHRC ระบุว่า การกระทำของกองทัพไทยถือเป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของชาวกัมพูชา และเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายระหว่างประเทศ เช่น กฎบัตรสหประชาชาติ ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน และถ้อยแถลงร่วมระหว่างไทยและกัมพูชาที่ลงนามในกรุงกัวลาลัมเปอร์ จึงได้ยื่นคำร้องไปยังสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) สำนักงาน OHCHR ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในกรุงเทพ สถาบันอิสระด้านสิทธิมนุษยชนในอาเซียน และประธานผู้แทนถาวรของมาเลเซียประจำคณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (ICAI)
โดยในการอุทธรณ์อย่างเร่งด่วน CHRC ได้ยื่นคำร้องสำคัญดังต่อไปนี้
1. เรียกร้องให้ทางการไทยยุติการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ทั้งหมด และให้ความเคารพอย่างเต็มที่ต่อความปลอดภัยของพลเรือนชาวกัมพูชาตามแนวชายแดน
2. ร่วมมือกับรัฐบาลไทยเพื่อให้แน่ใจว่ามีการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเป็นอิสระ เป็นกลาง และโปร่งใส และเพื่อให้แน่ใจว่าบุคคลใด ๆ ที่รับผิดชอบในการอนุมัติหรือดำเนินการอันผิดกฎหมายนี้จะต้องรับผิดทางอาญา
3. เรียกร้องให้ทางการไทยให้การรักษาพยาบาล การชดเชย และการชดเชยแก่เหยื่อและครอบครัวอย่างเร่งด่วน
4. เรียกร้องให้รัฐบาลไทยเสริมสร้างกลไกการป้องกันและการสร้างความเชื่อมั่น และดำเนินการตามปฏิญญาสันติภาพอย่างเต็มที่
5. พิจารณานำเรื่องนี้ขึ้นหารือต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติหรือขั้นตอนพิเศษที่เกี่ยวข้องเพื่อให้แน่ใจว่ามีการรับผิดชอบและไม่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีก
6. พิจารณาส่งคณะผู้แทนตรวจสอบข้อเท็จจริงลงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเพื่อประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนโดยตรงและป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำ
7. เรียกร้องให้รัฐบาลไทยดำเนินการปล่อยตัวและส่งทหารกัมพูชา 18 นายกลับประเทศโดยทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข
CHRC ยืนยันถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของกัมพูชาต่อหลักการของกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ และเรียกร้องให้ชุมชนระหว่างประเทศต้องรับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่อการละเมิดร้ายแรงเหล่านี้ และดำเนินมาตรการเร่งด่วนเพื่อรับรองความยุติธรรมให้กับเหยื่อและการคุ้มครองพลเรือนทั้งหมดตามแนวชายแดนกัมพูชา-ไทย
