เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศ CNBC TV18 รายงานว่า หลังจากที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือด้านห่วงโซ่อุปทานแร่หายาก หรือ แร่แรร์เอิร์ธ (Rare Earth) กับไทยและมาเลเซีย ประเด็นนี้ก็กลายเป็นที่จับตามองทันที แร่แรร์เอิร์ธเป็นโลหะ 17 ชนิดที่มีความสำคัญต่อเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น สมาร์ตโฟน รถยนต์ไฟฟ้า และระบบป้องกันประเทศ
แม้ชื่อของแร่เหล่านี้จะเรียกว่าแร่หายาก แต่ความจริงมีปริมาณค่อนข้างมาก เพียงแต่การขุดหาและแยกแร่ทำได้ยาก เนื่องจากมักพบรวมกันในปริมาณต่ำ รายชื่อแร่แรร์เอิร์ธประกอบด้วย แลนทานัม (La), ซีเรียม (Ce), เพรซีโอดิเมียม (Pr), นีโอดิเมียม (Nd), โพรมีเทียม (Pm), ซาแมเรียม (Sm), ยูโรเพียม (Eu), แกโดลิเนียม (Gd), เทอร์เบียม (Tb), ดิสโพรเซียม (Dy), ฮอลเมียม (Ho), เออร์เบียม (Er), ทูเลียม (Tm), อิตเทอร์เบียม (Yb), ลูทีเทียม (Lu), สแกนเดียม (Scandium) และอิตเทรียม (Y)
หลายประเทศทั่วโลกมีแหล่งสำรองแร่แรร์เอิร์ธ แต่บางประเทศมีมากกว่าประเทศอื่นอย่างชัดเจน
อันดับ 1 จีน 44 ล้านตัน
จีนครองตลาดแร่หายากของโลกด้วยปริมาณสำรอง 44 ล้านตัน คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของปริมาณสำรองโลกทั้งหมด ตัวเลขดังกล่าวยังสูงกว่าประเทศที่มีสำรองแร่อันดับสองถึงสองเท่า อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จีนต้องนำเข้าแร่จากเมียนมา เนื่องจากกฎระเบียบที่ไม่เข้มงวด ทำให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรงจากการทำเหมือง
อันดับ 2 บราซิล 21 ล้านตัน
บราซิลมีสำรองแร่หายาก 21 ล้านตัน แต่การผลิตยังจำกัด และยังไม่สามารถใช้ศักยภาพที่มีได้เต็มที่ แม้จะไม่ใช่ผู้ผลิตรายใหญ่ในปี 2567 แต่บราซิลเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์จากแหล่งแร่ Pela Ema และตั้งเป้าผลิต 5,000 เมตริกตันต่อปี ภายในปี 2569
อันดับ 3 อินเดีย 6.9 ล้านตัน
อินเดียมีแร่หายากสำรองมากเป็นอันดับสาม โดยผลิตได้ 2,900 เมตริกตันในปี 2567 และมีสัดส่วนประมาณ 35% ของแหล่งแร่ชายหาดและทรายทั่วโลก ซึ่งเป็นแหล่งสำคัญของแรร์เอิร์ธ การผลิตของอินเดียเพิ่มขึ้น และรัฐบาลกำลังลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมแร่ต่อไป
อันดับ 4 ออสเตรเลีย 5.7 ล้านตัน
ออสเตรเลียมีสำรองแร่หายากอันดับสี่ของโลก ผลิตได้ 13,000 เมตริกตันในปี 2567 เริ่มทำเหมืองตั้งแต่ปี 2550 และคาดว่าผลผลิตจะเพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
อันดับ 5 รัสเซีย 3.8 ล้านตัน
รัสเซียมีสำรองแร่หายากจำนวนมาก แต่ตัวเลขลดลงจากการประเมินก่อนหน้า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสำรวจและพัฒนาแหล่งทรัพยากรเพิ่มเติม เพื่อเสริมสร้างตำแหน่งในตลาดโลก
อันดับ 6 เวียดนาม 3.5 ล้านตัน
เวียดนามมีปริมาณสำรองใกล้เคียงกับรัสเซีย โดยพบแหล่งแร่จำนวนมากใกล้ชายแดนตะวันตกเฉียงเหนือติดกับจีน และตามแนวชายฝั่งตะวันออก
อันดับ 7 สหรัฐอเมริกา 1.9 ล้านตัน
แม้จะมีเทคโนโลยีเหนือกว่า แต่สหรัฐฯ มีแร่หายากจำกัด การทำเหมืองจำกัดอยู่ที่เหมือง Mountain Pass ในรัฐแคลิฟอร์เนีย
อันดับ 8 กรีนแลนด์ 1.5 ล้านตัน
กรีนแลนด์มีสำรอง 1.5 ล้านเมตริกตัน ปัจจุบันยังไม่เริ่มการผลิต แต่โครงการ Tanbreez และ Kvanefjeld ถือว่ามีศักยภาพสูงสำหรับการพัฒนาในอนาคต
อันดับ 9 แทนซาเนีย 0.9 ล้านตัน
แทนซาเนียถูกมองว่ามีศักยภาพสูงสำหรับการพัฒนาแร่หายาก มีแหล่งแร่ที่รอการสำรวจ ซึ่งอาจช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจภูมิภาค หากพัฒนาอย่างยั่งยืน
อันดับ 10 แอฟริกาใต้ 0.9 ล้านตัน
แอฟริกาใต้มีสำรอง 0.9 ล้านตัน และกำลังใช้ความร่วมมือระดับโลกเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มจากทรัพยากร โครงการต่าง ๆ เช่น Phalaborwa มีเป้าหมายลดการพึ่งพาจีนและกระตุ้นอุปทานในภูมิภาค