เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2568 สำนักข่าว ยอนฮับนิวส์ ของประเทศเกาหลีใต้ รายงานว่า ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ อี แจมยอง และนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน มาเนต ได้ตกลงที่จะจัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจร่วมระหว่างหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของทั้งสองประเทศ เพื่อสืบสวนการหลอกลวงทางออนไลน์และอาชญากรรมอื่น ๆ ที่มุ่งเป้าไปที่ชาวเกาหลีใต้ ข้อตกลงดังกล่าวเกิดขึ้นในการหารือนอกรอบ ระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 47 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย

คัง ยูจุง โฆษกประธานาธิบดีเกาหลีใต้ กล่าวว่า ผู้นำทั้งสองตกลงที่จะจัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจในกัมพูชาเพื่อปราบปรามอาชญากรรมที่มุ่งเป้าไปที่ชาวเกาหลี โดยจะเริ่มดำเนินการในเดือน พ.ย. นี้ ส่วนเรื่องขนาดของกำลังตำรวจเกาหลีและแผนปฏิบัติการของหน่วยเฉพาะกิจจะกำหนดให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด เกาหลีใต้กำลังพยายามจัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจภายใต้การดูแลของตำรวจกัมพูชา เพื่อสืบสวนอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับชาวเกาหลี คล้ายกับหน่วย Korean Desk ที่ปฏิบัติการในฟิลิปปินส์
อี แจ มยอง ตั้งข้อสังเกตว่า ปัจจุบันชาวเกาหลีใต้มีความอ่อนไหวอย่างยิ่งต่ออาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ที่นักศึกษาวัย 22 ปีถูกลักพาตัวและทรมานจนเสียชีวิตในกัมพูชา และแสดงความขอบคุณที่กัมพูชาให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของชาวเกาหลี และเรียกร้องให้มีการประสานงานอย่างใกล้ชิดมากขึ้นเพื่อร่วมกันจัดการกับอาชญากรรมดังกล่าว ซึ่งระหว่างการหารือ ฮุน มาเนต ได้แสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของนักศึกษาชาวเกาหลีใต้ที่ถูกหลอกให้ไปทำงานในแก๊งสแกมเมอร์ในกัมพูชา โดยบอกว่าเป็นเหตุการณ์ที่น่าเศร้า
ฮุน มาเนต กล่าวว่า ทางการกัมพูชาได้ดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อปราบปรามแก๊งมิจฉาชีพและจับกุมผู้กระทำความผิด พร้อมทั้งให้คำมั่นว่า จะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้นเพื่อจัดการกับอาชญากรรมข้ามพรมแดน รวมถึงยาเสพติดและการค้ามนุษย์ นี่ไม่ใช่ปัญหาของประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่เป็นปัญหาของภูมิภาค พร้อมเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการพยายามร่วมกันของพหุภาคีเพื่อจัดการกับอาชญากรรมข้ามชาติที่เพิ่มสูงขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยคดีนี้กระตุ้นให้รัฐบาลเกาหลีส่งคณะผู้แทนไปยังกัมพูชาเมื่อต้นเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา เพื่อแก้ไขปัญหาอาชญากรรมที่ขยายตัว และกำหนดข้อจำกัดการเดินทางในบางพื้นที่ของกัมพูชา
ระหว่างการหารือ อี แจ มยอง กล่าวว่า เขาจะสั่งการให้รัฐบาลพิจารณาลดระดับคำเตือนการเดินทางในบางพื้นที่ของกัมพูชา รวมถึงกรุงพนมเปญ หลังจากประเมินสถานการณ์ด้านความมั่นคง และสอดคล้องกับการจัดตั้งหน่วยสืบสวนร่วมที่ดูแลชาวเกาหลีใต้ ผู้นำทั้งสองยังได้หารือถึงแนวทางในการยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคี โดย อี แจมยอง ให้คำมั่นว่า จะสนับสนุนการพัฒนากัมพูชาอย่างต่อเนื่อง และกล่าวว่าเขาหวังที่จะส่งเสริมการเยือนซึ่งกันและกันและการสื่อสารระดับสูง
ทั้งนี้ ด้านฮุน มาเนต ยังกล่าวอีกว่า เกาหลีใต้เป็นนักลงทุนรายใหญ่และนักท่องเที่ยวคนสำคัญของกัมพูชา และแสดงความหวังที่จะขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงและการป้องกันประเทศ