วันที่ 18 ตุลาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศ YONHAP ได้มีการรายงานว่า สำนักงานประธานาธิบดีเกาหลีใต้เปิดเผยว่า นายอี แจมยอง ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ได้ออกคำสั่งฉุกเฉินให้ดำเนินมาตรการเพื่อลบโฆษณาออนไลน์ ที่มีการหลอกลวงพลเมืองชาวเกาหลีใต้ให้ไปทำงานที่ผิดกฎหมายและฉ้อโกงในประเทศต่างๆ ทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คำสั่งดังกล่าวเป็นการขยายผลจากความพยายามก่อนหน้าซึ่งมุ่งเน้นไปที่ประเทศกัมพูชาโดยเฉพาะ เนื่องจากมีกรณีการหลอกลวงออนไลน์ที่พุ่งเป้าไปที่ชาวเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายอี กยู ยอน เลขานุการประธานาธิบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า นายอี แจมยอง ได้สั่งการให้หน่วยงานตรวจสอบด้านการกระจายเสียงและสื่อ รวมถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งดำเนินการลบประกาศออนไลน์ ที่โฆษณาตำแหน่งงานที่ให้ผลตอบแทนสูงเกินจริงในประเทศกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยคำสั่งนี้มีขึ้นท่ามกลางจำนวนคดีที่ชาวเกาหลีใต้ถูกควบคุมตัวและถูกทรมาน ในศูนย์ปฏิบัติการแก๊งคอลเซ็นเตอร์และมิจฉาชีพทางออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
การออกคำสั่งดังกล่าวเป็นผลมาจากความกังวลว่า การเฝ้าระวังที่เข้มงวดมากขึ้นในประเทศกัมพูชา อาจกระตุ้นให้เครือข่ายอาชญากรรมเหล่านี้ย้ายฐานการสรรหาพลเมืองเกาหลีใต้ไปยังประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แทน
ขณะนี้ ทางการมีแผนที่จะทบทวนเว็บไซต์ที่มีการโพสต์โฆษณาเหล่านี้อย่างครอบคลุม และจะแบ่งปันข้อมูลที่ได้กับผู้ดำเนินการพอร์ทัลหลักต่างๆ นอกจากนี้ ยังได้มีการจัดตั้ง องค์กรที่ปรึกษา ที่ประกอบด้วยบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ เช่น Kakao, Naver และ Google เพื่อเปิดตัวระบบกำกับดูแลตนเองอย่างเต็มรูปแบบ ในการตรวจจับและลบประกาศที่น่าสงสัย
สำนักงานประธานาธิบดีให้คำมั่นที่จะสร้างมาตรการตอบสนองที่ครอบคลุมในระดับ รัฐบาลทั้งประเทศ โดยจะครอบคลุมทุกขั้นตอน ตั้งแต่การป้องกัน การช่วยเหลือเหยื่อ ไปจนถึงการระบุตัวตนและการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกันความปลอดภัยของพลเมืองเกาหลีใต้ และยับยั้งการตกเป็นเหยื่อของการแสวงหาผลประโยชน์จากแก๊งมิจฉาชีพออนไลน์