เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2568 เว็บไซต์ข่าวต่างประเทศ ETtoday ได้มีการรายงานเรื่องราวของ ฮิซาโกะ อายุ 74 ปี และ มาซาชิ อายุ 76 ปี คู่สามีภรรยาชาวโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น พวกเขาทั้งคู่เกษียณจากบริษัทใหญ่เมื่อ 10 ปีก่อน โดยมีเงินเก็บสูงถึง 42 ล้านเยน หรือประมาณ 9.2 ล้านบาท และมีเงินบำนาญรายเดือนอีกประมาณ 250,000 เยน หรือราว 55,000 บาท ซึ่งจากเงินดังกล่าวถือว่ามีฐานะของพวกเขามีมั่นคงไร้กังวลเลยแหละ
แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยความเชื่อที่ว่า ประหยัดคือหลักประกันที่ดีที่สุด พวกเขาจึงใช้ชีวิตแบบสุดตระหนี่ เที่ยวแค่ปีละครั้ง งดการทานอาหารนอกบ้าน และไม่ซื้อเสื้อผ้าใหม่มานานหลายปี ทางด้าน ฮิซาโกะ เคยคิดว่า ชีวิตเรียบง่าย แค่มีกันและกันก็เพียงพอแล้วแต่เวลาผ่านไป ชีวิตกลับกลายเป็นความเบื่อหน่ายและจำเจ
คู่สามีภรรยาคู่นี้เริ่ม ปฏิเสธงานสังสรรค์และกิจกรรมทางสังคม เนื่องจากมองว่า การไม่ใช้เงิน เป็นเรื่องน่ายกย่อง เมื่อปฏิสัมพันธ์ลดลง ต่างคนก็ต่างอยู่ สามีดูทีวีทั้งวัน ส่วนภรรยาเต็มที่ก็ได้แค่ไปห้องสมุด บางครั้งไม่ได้พูดคุยกับใครเลยเป็นวัน ๆ ความสัมพันธ์กับหลาน ๆ ก็ห่างเหินออกไปด้วย
ทั้งนี้ ฮิซาโกะ กล่าวด้วยความเสียใจว่า ตอนที่เรายังแข็งแรงอยู่ เราควรจะสร้างความทรงจำดี ๆ ให้มากกว่านี้ ตอนนี้ถึงแม้เงินเก็บจะยังอยู่ แต่เราไม่มีเรี่ยวแรงที่จะสนุกกับมันแล้ว อยากใช้เงินแต่ร่างกายไม่เป็นใจ การประหยัดจนเกินเหตุนี้เอง ที่ทำให้พวกเราพลาดช่วงเวลาสำคัญที่จะได้ใช้ชีวิตอย่างแท้จริง
ทางด้าน ผู้เชี่ยวชาญ ชี้ว่า หลายคนกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาลหรือค่าดูแลผู้สูงอายุในอนาคต จนทำให้ประหยัดเกินความจำเป็นในวัยเกษียณ แต่การวางแผนทางการเงินหลังเกษียณนั้น ไม่ใช่แค่เรื่อง ไม่ให้เงินลดลง แต่ที่สำคัญกว่าคือต้องคิดว่า จะใช้เมื่อไหร่ และเพื่ออะไร หากปล่อยให้เวลาแห่งสุขภาพผ่านไป ต่อให้มีเงินมากมายมหาศาล ก็อาจเหลือไว้เพียงความว่างเปล่าและความเสียดายเท่านั้น
ข้อมูล ETtoday