วันที่ 14 ตุลาคม 2568 สำนักข่าว The Korean Times รายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้เปิดเผยข้อมูลว่า ขณะนี้มีชาวเกาหลีราว 80 คนยังคงสูญหายในกัมพูชา หลังจากที่ตั้งแต่ต้นปีจนถึงสิงหาคม มีการร้องเรียนผ่านสถานทูตเกี่ยวกับคดีความที่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์และการลักพาตัวรวมทั้งสิ้น 330 คดี โดยปิดคดีได้แล้วประมาณ 260 คดี ขณะที่ยังคงมีคดีค้างอยู่ราว 80 คดี ซึ่งเป็นความกังวลสำคัญของทางการกรุงโซล
ความรุนแรงของปัญหาดังกล่าวทำให้เสียงเรียกร้องจากฝั่งเกาหลีเพิ่มขึ้น ทั้งในเชิงการทูตและมาตรการเข้มงวดทางกฎหมาย บางฝ่ายในเกาหลีใต้ยังกระตุ้นให้พิจารณามาตรการรุนแรงหากการทูตล้มเหลว อี อึน-จู สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาธิปไตย ระบุว่ารัฐบาลไม่ควรตัดความเป็นไปได้ในการแทรกแซงทางการทหาร หากจำเป็นเพื่อปกป้องพลเมือง
ด้านทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ยืนยันความมุ่งมั่นแก้ปัญหาอย่างจริงจัง โฆษกประธานาธิบดีเผยว่า ประธานาธิบดี อี แจ-มยอง สั่งให้ส่งคณะทำงานร่วมไปยังกัมพูชาในวันที่ 15 ตุลาคม โดยมีรองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนที่สองเป็นหัวหน้าคณะ พร้อมผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ เพื่อเร่งประสานงานปกป้องเหยื่อและนำผู้เกี่ยวข้องกลับประเทศโดยเร็ว
รัฐบาลเกาหลีเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมทรัพยากรและตอบสนองอย่างรวดเร็ว แม่นยำ และเด็ดขาด โดยย้ำว่าเป้าหมายสำคัญคือการคุ้มครองเหยื่อและยุติภัยคุกคามที่เกิดจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์และเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติอย่างยั่งยืน
ข้อมูลและภาพประกอบจาก The Korea Times 1 / The Korea Times 2