สองพรรคสาดโคลน! วิกฤติชัตดาวน์สหรัฐทวีความรุนแรง ทำเนียบขาวเตือนแรงงานเสี่ยงตกงาน
ข่าวต่างประเทศ

สองพรรคสาดโคลน! วิกฤติชัตดาวน์สหรัฐทวีความรุนแรง ทำเนียบขาวเตือนแรงงานเสี่ยงตกงาน

วันที่ 2 ตุลาคม 2568 ทางสื่อต่างประเทศรายงานว่า ทำเนียบขาวเปิดเผยถึง การเลิกจ้างพนักงานรัฐบาลกลางสหรัฐจำนวนมากจะเริ่มขึ้นภายใน 2 วัน หลังจากที่หน่วยงานรัฐบาลต้องหยุดทำการ (Government Shutdown) ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 7 ปี เนื่องจากสมาชิกสภาจากพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตไม่สามารถบรรลุข้อตกลงร่างงบประมาณได้

การชัตดาวน์เริ่มต้นเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2568 ตามเวลาท้องถิ่น หลังการลงมติร่างงบประมาณไม่สำเร็จก่อนเส้นตายเที่ยงคืนวันที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมา ทำให้หน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐบาลต้องปิดทำการ ขณะที่ทั้งสองพรรคยังคงกล่าวโทษกันไปมา และวุฒิสภาสหรัฐได้ปิดสมัยประชุมแล้ว สถานการณ์ดังกล่าวสร้างความกังวลว่าอาจยืดเยื้อ ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากตกงานและสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์

ในการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาว เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2568 เจดี แวนซ์ รองประธานาธิบดีและแคโรไลน์ ลีวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวโจมตีพรรคเดโมแครตว่าทำให้เกิดสถานการณ์ครั้งนี้ โดยระบุว่าจะมีการปลดข้าราชการจำนวนมากในสองวันข้างหน้า ด้านพรรคเดโมแครตชี้ว่าเป็นเพราะรีพับลิกันพยายามบีบให้ยอมรับแผนงบประมาณของฝ่ายตน

พรรคเดโมแครต เรียกร้องให้มีการรับประกันงบประมาณด้านการดูแลสุขภาพสำหรับประชาชนรายได้น้อย ขณะที่ พรรครีพับลิกัน ต้องการใช้มาตรการชั่วคราวเพื่อคงงบประมาณในระดับเดิมไปจนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน แต่ยังไม่ได้เสียงสนับสนุนเพียงพอในสภาคองเกรส

นักวิเคราะห์ประเมินว่าการชัตดาวน์ครั้งนี้จะมีขนาดใหญ่กว่าปี 2018 โดยคาดว่าราว 40% ของข้าราชการกลาง หรือประมาณ 750,000 คน จะถูกสั่งพักงานชั่วคราว เจ้าหน้าที่ที่ถูกจัดว่า จำเป็น เช่น ทหารและเจ้าหน้าที่ชายแดน จะต้องทำงานต่อโดยไม่ได้รับค่าจ้าง ส่วนผู้ที่ถูกสั่งพักงานจะไม่ได้รับเงินเดือนในช่วงนี้ แต่ที่ผ่านมา ข้าราชการกลุ่มดังกล่าวมักได้รับเงินชดเชยย้อนหลัง