วันที่ 19 กันยายน 2568 สำนักข่าวต่างประเทศ Aljazeera รายงานว่า เจ้าหน้าที่รัฐเกรละ ทางตอนใต้ของอินเดีย ได้ออกคำเตือนด้านสุขภาพ หลังพบจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจาก อะมีบากินสมอง เพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
จำนวนผู้ป่วยโรคสมองอักเสบจากเชื้ออะมีบากินสมอง กำลังมีแนวโน้มเพิ่ม ล่าสุดมีผู้ป่วยรวม 69 คน และมีผู้เสียชีวิต 19 ราย ในจำนวนนี้ 3 รายเพิ่งเสียชีวิตเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา รวมถึงทารกอายุ 3 เดือนด้วย ทางการรัฐเกรละจึงเริ่มเติมคลอรีนในบ่อน้ำ ถังเก็บน้ำ และพื้นที่อาบน้ำสาธารณะ รวมถึงบริเวณที่ประชาชนอาจอาบน้ำและสัมผัสกับอะมีบา
แม้จำนวนผู้ติดเชื้อยังอยู่ในระดับต่ำ แพทย์เฉพาะกิจของรัฐบาลเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ระบุว่า เจ้าหน้าที่กำลังทำการทดสอบในระดับกว้างทั่วรัฐเพื่อตรวจหาและรักษาผู้ป่วย เพราะปีนี้พบผู้ติดเชื้อใหม่กระจายทั่วรัฐ แตกต่างจากอดีตที่พบเฉพาะบางพื้นที่ ตามรายงานของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC) การติดเชื้อพบได้น้อยมาก แต่หากพบแล้วมีความอันตรายร้ายแรงถึงชีวิต
หน่วยงานสาธารณสุขระบุว่า อะมีบา มักเรียกว่า อะมีบากินสมอง เนื่องจากสามารถติดเชื้อในสมองและทำลายเนื้อเยื่อสมอง หากเข้าสู่สมอง จะก่อให้เกิดการติดเชื้อที่คร่าชีวิตผู้ป่วยมากกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ อาการเริ่มต้น ได้แก่ ปวดศีรษะ มีไข้ และอาเจียน ซึ่งสามารถพัฒนาไปสู่อาการชัก สถานะทางจิตเปลี่ยนแปลง ประสาทหลอน และโคม่าได้อย่างรวดเร็ว ปัจจุบันยังไม่มียารักษาจำเพาะต่ออะมีบาชนิดนี้
สำหรับรายงานกรณีการติดเชื้อครั้งแรกของรัฐเกรละ เกิดขึ้นในปี 2016 ขณะที่ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2505 มีรายงานผู้ป่วยเกือบ 500 คนทั่วโลก โดยส่วนใหญ่อยู่ในสหรัฐอเมริกา อินเดีย ปากีสถาน และออสเตรเลีย