จากกรณีศูนย์วิจัยความขัดแย้งทางอาวุธ (CAR) ของอังกฤษ ได้เปิดเผยรายงานที่สร้างความตกตะลึง โดยระบุว่ากองทัพเมียนมาได้นำเข้าและใช้งานเทคโนโลยีป้องกันการรบกวนสัญญาณ (anti-jamming) ที่ผลิตจากสหภาพยุโรป (EU) มาติดตั้งในโดรนทางทหารของตนเอง ซึ่งถือเป็นคำถามใหญ่ต่อมาตรการคว่ำบาตรที่ EU ประกาศใช้กับเมียนมาตั้งแต่ปี 2021
รายงานดังกล่าวอ้างอิงจากการตรวจสอบโดรนของกองทัพเมียนมา 2 ลำ ที่ถูกยิงตกในพื้นที่การสู้รบที่รัฐคะยาห์ในปี 2024 โดยพบว่าโดรนทั้งสองลำมีระบบนำทางด้วยดาวเทียมที่มีความแม่นยำสูง พร้อมกับระบบต่อต้านการรบกวนสัญญาณ ซึ่งผลิตในประเทศสมาชิก EU
CAR ตั้งข้อสังเกตว่าเทคโนโลยีเหล่านี้อาจถูกส่งผ่านจากผู้ผลิตในยุโรปไปยังประเทศจีน ก่อนที่จะถูกขายต่อไปยังกองทัพเมียนมาในเดือนมีนาคมปี 2024
ด้าน Justice for Myanmar (JFM) ซึ่งเป็นองค์กรสิทธิมนุษยชนของเมียนมา ได้ออกมาเรียกร้องให้ EU และประชาคมโลกดำเนินมาตรการคว่ำบาตรต่อรัฐบาลทหารเมียนมาอย่างเข้มข้นและรัดกุมยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้อาวุธยุทโธปกรณ์และเทคโนโลยีทางทหารหลุดรอดไปถึงมือกองทัพเมียนมาได้อีก
ที่ผ่านมา กองทัพเมียนมาใช้อากาศยาน โดรน และพารามอเตอร์ ในการโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายพลเรือนในพื้นที่ที่ถูกยึดครองโดยกองกำลังฝ่ายต่อต้านและกองกำลังชาติพันธุ์ ส่งผลให้มีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ซึ่งการค้นพบครั้งนี้ยิ่งตอกย้ำถึงความจำเป็นในการยกระดับมาตรการควบคุมและตรวจสอบ เพื่อหยุดยั้งการใช้ความรุนแรงต่อประชาชนโดยกองทัพเมียนมา