เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2568 เพจเฟซบุ๊ก Army Military Force ได้มีการรายงานว่า ด่วน! ฮุน มาเนต ร่อนเอกสารเสนอชื่อ ทรัมป์ ชิงรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ ตามรอยอิสราเอลและปากีสถาน ฮุนมาเนต ขอบคุณผู้นำสหรัฐฯ ที่เข้าแทรกแซงในศึกไทย-กัมพูชา และส่วนมีช่วยผลักดันข้อตกลงหยุดยิงไทย-กัมพูชาอย่างทันทีและไม่มีเงื่อนไข
ในเอกสารระบุเนื้อหาดังต่อไปนี้
สมเด็จหาบวรธิบดี ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา
พนมเปญ, 7 สิงหาคม 2568
คณะกรรมการโนเบลแห่งนอร์เวย์
ประตู 51 ของเฮนริก อิบเซน
0255 ออสโล, นอร์เวย์
เรียน สมาชิกคณะกรรมการโนเบลแห่งนอร์เวย์ที่เคารพทุกท่าน
ข้าพเจ้าในฐานะนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เสนอชื่อโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนที่ 45 และ 47 ให้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพอย่างเป็นทางการ เพื่อยกย่องผลงานอันทรงคุณค่าของท่านในการส่งเสริมสันติภาพโลก การเสนอชื่อครั้งนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นถึงความซาบซึ้งของข้าพเจ้าเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความกตัญญูอย่างสุดซึ้งของประชาชนชาวกัมพูชาสำหรับบทบาทสำคัญยิ่งของท่านในการฟื้นฟูสันติภาพและเสถียรภาพบริเวณชายแดนระหว่างกัมพูชาและไทย
ความเป็นผู้นำอันโดดเด่นของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งโดดเด่นด้วยความมุ่งมั่นในการแก้ไขความขัดแย้งและป้องกันสงครามหายนะผ่านการเจรจาต่อรองที่มีวิสัยทัศน์และนวัตกรรม แสดงให้เห็นล่าสุดในบทบาทสำคัญในการเป็นตัวกลางเจรจาหยุดยิงอย่างทันทีและไม่มีเงื่อนไขระหว่างกัมพูชาและไทย การแทรกแซงอย่างทันท่วงทีนี้ ซึ่งช่วยป้องกันความขัดแย้งที่อาจสร้างความเสียหายร้ายแรง มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดในการป้องกันการสูญเสียชีวิตจำนวนมาก และปูทางไปสู่การฟื้นฟูสันติภาพระหว่างสองประเทศ
นี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของความสำเร็จอันโดดเด่นของประธานาธิบดีทรัมป์ในการลดความตึงเครียดในภูมิภาคที่ผันผวนที่สุดของโลก การแสวงหาสันติภาพอย่างต่อเนื่องผ่านการทูตของเขาสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของอัลเฟรด โนเบล อย่างสมบูรณ์แบบ นั่นคือการยกย่องผู้ที่มีคุณูปการอันโดดเด่นต่อภราดรภาพระหว่างประเทศและการส่งเสริมสันติภาพ
ด้วยเหตุผลเหล่านี้ ผมหวังว่าการเสนอชื่อโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนที่ 45 และ 47 ให้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ จะได้รับการพิจารณาอย่างดี
สมาชิกคณะกรรมการโนเบลแห่งนอร์เวย์ที่เคารพ โปรดรับคำรับรองใหม่อีกครั้งว่าข้าพเจ้าจะพิจารณาอย่างสูง
ฮุน มาเนต