เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา มีรายงานว่า ‘แม่เย็นจิต’ แม่ค้าสลากที่ขายให้กับลุงแจ้ เปิดเผยว่า ลุงแจ้ได้มาดูสลากที่ร้าน ซึ่งอยู่หน้าบ้านที่เปิดเป็นร้านขายของชำเล็ก ๆ ด้วย ตอนนั้นสลากเหลืออยู่ 3 ใบ จึงให้ลุงแจ้ซื้อเงินเชื่อไว้ เพราะลุงแจ้จะมาซื้อสลากเงินเชื่อเป็นประจำ ขณะนั้นมีลูกค้าคนอื่นที่เป็นคนในบ้านเดียวกัน มาขอซื้อสลากทั้ง 3 ใบ โดยจะจ่ายเงินสด แต่ตนไม่ขายให้ เนื่องจากลุงแจ้เเป็นลูกค้าประจำ มาซื้อข้าวเหนียวจิ๊นทอดและกาแฟทุกวัน
กระทั่งถึงวันออกสลากกินแบ่งรัฐบาล ลุงแจ้ตรวจดูเลขท้าย 3 ตัว เลขหน้า 3 ตัว และเลขท้าย 2 ตัว ซึ่งไม่ถูก และได้ขย้ำสลากทิ้ง แต่มีเพื่อนบ้านนำสลากมาตรวจอีกครั้ง ปรากฏว่าถูกรางวัลที่ 1 ถึงกับเฮลั่นเสียงดังสนั่นทั่วหมู่บ้าน มีชาวบ้านแห่กันมาแสดงความยินดีจำนวนมาก ญาติ ๆ ลุงแจ้ทั้งอยู่ใกล้และอยู่ต่างอำเภอพากันมาเต็มบ้าน มีการไปซื้อเนื้อมาลาบมาดื่มกินฉลองกันคึกครื้น
เมื่อวานนี้ ได้พาลุงแจ้นำสลากไปขึ้นเงินที่ธนาคารที่แม่ริมมีน้องสาวอยู่ที่อำเภอเชียงดาว, พร้าว และดอยสะเก็ด ติดตามกันไปด้วย และมีญาติของหลานชายทำงานที่นั่น เมื่อดำเนินการเสร็จ ลุงแจ้เบิกเงินสด จำนวน 5 ล้านบาท โดยแจกให้ญาติ ๆ คนละ 1 ล้านบาท
น้องสาวบอกว่ามีหนี้เยอะ ให้ไป 1,400,000 บาท
ลูกชายลุงแจ้มีอาชีพรับจ้างก่อสร้าง ให้ไป 2,000,000 บาท เพื่อให้ไปซื้อรถยนต์ใช้
ส่วนหลานชายที่เป็นลูกของพี่สาวลุงแจ้ ไม่ทราบว่าได้เท่าไหร่ ได้พาลุงแจ้ไปดูแลแทนญาติคนอื่น ๆ แล้วจะพาลุงแจ้กลับมาที่บ้านเปียงในปีหน้า ส่วนที่บ้านเช่ายังปิดเงียบ
มีชาวบ้านร่ำลือว่า แม่เย็นจิตคงได้รางวัลจากลุงแจ้ ที่เป็นผู้นำโชคก้อนโตมาให้ลุงแจ้ แม่เย็นจิตได้ปฎิเสธว่า ไม่ได้รางวัลจากลุงแจ้สักบาทเลย เพียงแต่เมื่อวานนี้ ทวงเงินค่าหวยที่ค้างไว้อีก 60 บาท และค่าของที่มาเชื่อไว้ตอนเลี้ยงฉลองวันหวยออก รวมประมาณ 900 บาทเท่านั้น ทางลูกสาวก็บอกแม่เย็นจิตว่าไม่ต้องไปขอเงินลุงแจ้หรือไปพูดอะไร เขาจะให้ไม่ให้ก็เงินของเขา