เวลา 13.30 น.วันที่ 24 พ.ย.68 นายสุรชัย โคตรบุตรดี นายอำเภอบางใหญ่ นายอภิชาติ สุขรัตน์ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอำเภอบางใหญ่ นายภัทรพล ดวงบุญ กำนันตำบลเสาธงหิน นายปิยะ  นิลเทียม ผู้ใหญ่บ้านหมู่8 ต.เสาธงหิน และสมาชิกอาสารักษาดินแดน อ.บางใหญ่ ที่6 เดินทางเข้าตรวจสอบบ้านทาวเฮาส์ 2 ชั้น เลขที่ 45/169 หมู่บ้านมิตรประชา  ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี หลังได้รับเรื่องร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบางใหญ่ ว่ามีชาวเวียดนามจำนวน 6 คน ลักลอบทำไอศกรีมกะทิสดโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งบริเวณที่มีการผลิตไอศกรีมสกปรกมาก  อุปกรณ์และเครื่องมือไม่ถูกสุขลักษณะ

จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบรถ จยย.พ่วงข้างจอดอยู่ที่บริเวณหน้าบ้าน จำนวน 6 คัน นอกจากนี้ภายในบ้านยังพบชาวเวียดนามจำนวน 6 คน เป็นชาย 5 คน หญิง 1 คน กำลังจัดเตรียมไอศกรีมเพื่อนำออกไปขายให้กับลูกค้าตามจุดต่างๆ  นอกจากนี้ยังพบเครื่องปั่นไอศกรีมจำนวน 1 เครื่อง มะพร้าวจำนวน 100 ลูก ถังน้ำแข็ง ที่ใช้สำหรับแช่ไอศกรีมจำนวน 4 ถัง วางอยู่ที่หลังบ้าน เจ้าหน้าที่จึงยึดทั้งหมดไว้เป็นของกลาง

ขณะเดียวกันผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเช่าบ้านหลังดังกล่าวเดือนละ 4,500 บาท อยู่มาประมาณ 2 ปี ประกอบอาชีพผลิตไอศกรีมขายเองมาโดยตลอด ก่อนหน้านี้เคยเป็นลูกจ้างร้านไอศกรีมแห่งหนึ่งที่ จ.กรุงเทพมหานคร จึงทำให้รู้สูตรและรู้จักการทำไอศกรีม โดยวิธีการทำไอศกรีมคือเอาน้ำกะทิผสมกับนมสดและน้ำตาลทรายเอาเข้าเครื่องปั่นประมาณ 1 ชั่วโมง พอน้ำกะทิ นมสด และน้ำตาลทรายจับกันเป็นก้อน ก็เอาเกลืออัดเข้าไปเพื่อให้ได้ความเค็ม จากนั้นก็นำไปแช่ถังน้ำแข็งประมาณ 1 วัน แล้วก็นำใส่ถังน้ำแข็งเตรียมขาย รายได้จากการขายหักค่าใช้จ่ายแล้วได้กำไรประมาณวันละ 300-400 บาท ไม่รู้มาก่อนว่าการกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย

นายสุรชัย โคตรบุตรดี นายอำเภอบางใหญ่ กล่าวว่า เนื่องจากทางอำเภอบางใหญ่ได้รับการร้องเรียนว่ามีชาวเวียดนามเข้ามาประกอบอาชีพขายไอศกรีม สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบชาวเวียดนามจำนวน 6 คน ซึ่งชาวเวียดนามจะเป็นชาติที่ไม่ได้รับอนุญาตให้มาทำงานในประเทศไทย ซึ่งชาวเวียดนามกลุ่มดังกล่าวเข้าเมืองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และมีการประกอบอาชีพ อีกทั้งยังสร้างปัญหาเรื่องสุขลักษณะและสิ่งแวดล้อม จากการตรวจสอบพบเครื่องปั่นผลิตไอศกรีม หม้อต้มน้ำกะทิ และรถที่พร้อมจะออกไปขายไอศกรีม จำนวน 6 คัน หลังจากนี้จะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งฟ้องต่อไป แล้วจะขยายผลถึงเจ้าของบ้านว่าให้ต่างด้าวมาเช่าบ้านได้ยังไง ทั้งนี้ทางอำเภอบางใหญ่มีแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานอยู่เป็นจำนวนมาก การแก้ปัญหาจึงต้องประสานเจ้าของบ้านและเจ้าของกิจการ อพาร์ทเม้นท์ต่างๆ เพราะการจะให้เช่าบ้านต้องเป็นต่างด้าวที่เข้าเมืองถูกต้องตามกฎหมาย จากนั้นจะประสานงานกับกองสาธารณสุข เทศบาลเมืองเสาธงหิน ให้เข้ามาตรวจสอบว่าเพื่อนบ้านได้รับผลกระทบอะไรบ้าง

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัด นนทบุรี รายงาน