วันที่ 24 พฤศจิกายน 2568 ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร นายวิฑูรย์ เก่งงาน หรือ ทนายอ๋อง ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ผู้ต้องหาคดีบริษัทดิไอคอนฯ (The iCON) เปิดเผยกรณีที่เพจดังโพสต์รูปภาพสลิปโอนเงิน 40,000 บาท พร้อมข้อความว่า เมียของบอส ก.ไก่ อดีตพิธีกรคดีดิไอคอน ยังต้องจ่าย 4 หมื่น ล็อคคิวตีเยี่ยมวันอาทิตย์ ว่า เมื่อเช้าได้โทรศัพท์คุยกับทนายความของนายกันต์ กันตถาวร และเมื่อวานนี้ยังโทรศัพท์หาภรรยาของนายปีเตอร์ หนึ่งในผู้ต้องหาคดีดิไอคอนกรุ๊ป ซึ่งภรรยาของนายปีเตอร์รู้จักกับภรรยาของนายกันต์ ยืนยันว่าสลิปโอนเงินไม่ใช่ของภรรยานายกันต์
ส่วนภาพจากกล้องวงจรปิดที่เห็นว่ากันต์เดินอู๋อี๋กับหญิงสาวที่แดน 1 ไม่ตรงกับความจริง เพราะหลังเยี่ยมญาติ ทางเรือนจำจะให้ผู้ต้องขังเข้าโรงนอนตั้งแต่ 15.00 น. และไม่ได้ออกไปไหนอีก ส่วนห้องน้ำอยู่ในโรงนอน ภรรยานายกันต์ยืนยันว่าสลิปโอนเงินไม่ใช่ของตนเอง เพราะทั้งนายกันต์และผู้ต้องหาคดีดิไอคอนกรุ๊ปไม่ได้ว่าจ้างหรือติดสินบนใคร เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ยึดอายัดทรัพย์สินไปหมดแล้ว จึงไม่มีเงินใช้จ่ายหรือดูแลในเรือนจำ
ทนายวิฑูรย์กล่าวว่าข่าวที่ออกไปทำให้เกิดความเสียหาย เพราะนายกันต์ไม่รู้เรื่องและไม่ได้ให้ใครเข้าเยี่ยมวันอาทิตย์ หากเป็นความจริงทนายความต้องทราบ ไม่มีใครปิดบังเรื่องนี้ ข่าวในเพจดังจึงไม่ตรงกับความจริง ทั้งเรื่องใบจ่ายเงิน การขอเข้าเยี่ยมวันอาทิตย์ และประเด็นห้องเชือด ญาติของนายกันต์ได้รับความเสียหายกับเรื่องนี้มาก และอาจมีเจตนาเบี่ยงประเด็น เพราะขณะนี้มีข่าวผู้ต้องขังชาวจีนได้รับอภิสิทธิ์พิเศษ ทำให้ข่าวผู้ต้องขังชาวจีนเยอะขึ้นและอาจพยายามนำกรณีของนายกันต์มาบังกระแส ทั้งนี้บอสดิไอคอนไม่ได้รับอภิสิทธิ์พิเศษ เนื่องจากไม่มีเงินและอยู่อย่างไม่มีเงิน
ส่วนกระแสที่ว่าต้องจ่ายเงินเพื่อขอเข้าเยี่ยมวันอาทิตย์ ทนายวิฑูรย์กล่าวว่า บรรดาบอสดิไอคอนไม่มีเข้าเยี่ยมวันอาทิตย์ เรือนจำเปิดให้เยี่ยมในวันจันทร์ วันพุธ และวันศุกร์ สำหรับนักโทษคดียาเสพติด ส่วนวันอังคาร วันพฤหัสบดี และวันเสาร์ เป็นการเยี่ยมญาติคดีปกติ การบริหารเรือนจำเป็นแบบนี้ หลังจากนี้ทนายความและภรรยาของนายกันต์จะพิจารณาดำเนินการกับเพจที่ลงข่าวแบบนี้ เพราะทำให้นายกันต์และเรือนจำเสียหาย เรื่องนี้ไม่น่าจะส่งผลต่อคดีของนายกันต์ เพราะเรื่องเรือนจำกับคดีเป็นคนละส่วน
เมื่อถามว่าทนายความเคยได้ยินเรื่อง VIP ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพหรือไม่ ทนายวิฑูรย์กล่าวว่าผู้ต้องขังไม่เคยเล่าให้ตนฟัง ส่วนที่คุยกับนายสามารถ เจนชัยจิตรวณิช เพิ่งทราบข่าว นายสามารถอยู่แดน 1 กับนายกันต์ ส่วนบอสพอลอยู่แดน 4
เกี่ยวกับการเปิดหลักฐานหรือให้ดีเอสไอตรวจสอบ ทนายวิฑูรย์กล่าวว่าดีเอสไอคงตรวจสอบแล้ว และทนายความของนายกันต์อาจขอดูกล้องวงจรปิดเพื่อยืนยันความถูกต้อง หากไม่เป็นความจริงคงดำเนินคดี ภรรยานายกันต์ไม่ได้มีอภิสิทธิ์อะไร และไม่มีนายหน้าหรือใครติดต่อเพื่อประสานให้ได้รับอภิสิทธิ์
ผู้ต้องขังคดีดิไอคอนหรือ VIP ทนายวิฑูรย์กล่าวว่านายสามารถไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับใคร เพราะเครียดเรื่องตัวเองอยู่ นายสามารถบอกว่ารู้ข่าวแต่ไม่ได้ยุ่งเกี่ยว
ส่วนเรื่องการเปิดเพลงจีนในเรือนจำ ทนายวิฑูรย์ไม่ทราบ แต่บอสพอลไม่ได้เล่า ผู้ต้องขังชาวจีนอยู่แดน 3 บอสดิไอคอนไม่ได้อยู่แดนเดียว จึงไม่ทราบและไม่มีใครเล่าให้ฟัง ส่วนใหญ่พูดคุยเรื่องงานและความเป็นอยู่
ทนายวิฑูรย์กล่าวถึงการยื่นขอประกันตัวชั่วคราวบอสดิไอคอนที่ศาลไม่อนุญาต ว่าทำให้ผู้ต้องขังล้นเรือนจำ ผู้ต้องขังที่มีเงินและไม่ได้ถูก ปปง.อายัดทรัพย์สินทำทุกอย่างเพื่อให้สบาย ส่วนผู้ที่ไม่มีเงินอยู่อย่างลำบาก เกิดธุรกิจแบบใหม่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ตนเองไม่เคยมีนายหน้าหรือใครติดต่อ
เรื่องความเป็นอยู่ระหว่างลูกความกับผู้ต้องขังกลุ่มอื่น ทนายวิฑูรย์กล่าวว่ารู้สึกโล่งใจที่บอสพอลไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับกลุ่มคนจีนและไม่ได้อยู่ในห้องเชือด หากบอสพอลอยู่ในห้องเชือดคงเครียดมากขึ้น กรณีนี้อยากให้สังคายนาเรือนจำ หากจะเท่าเทียมก็ควรเท่าเทียมทั้งหมด และผู้ต้องขังที่ศาลยังไม่ตัดสินควรให้ประกันตัว เพื่อเตรียมคดีความ เพราะอยู่ข้างในเตรียมคดีลำบาก