วันนี้ (24 พ.ย.) นายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย พลตรี กรกฎ ภู่โชติ รองแม่ทัพภาคที่ 4 รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เป็นประธานประชุมศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ประจำปี 2568 เพื่อประเมินสถานการณ์และกำหนดแผนการช่วยเหลือและอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยง
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา รายงานสถานการณ์สาธารณภัย ระหว่างวันที่ 20–23 พฤศจิกายน 2568 พบว่า ขณะนี้ ทั้ง 16 อำเภอของจังหวัดสงขลาได้รับผลกระทบแล้ว รวม 115 ตำบล 821 หมู่บ้าน 167 ชุมชน มีประชาชนได้รับผลกระทบจำนวน 243,568 ครัวเรือน รวม 635,423 คน ต้องอพยพรวม 1,224 คน และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย โดยพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ รัตภูมิ จะนะ นาหม่อม และสะเดา จัดเป็นพื้นที่สถานการณ์หนักถึงหนักมาก ซึ่งบางจุดน้ำท่วมสูงและเพิ่มระดับอย่างรวดเร็วจากน้ำล้นตลิ่งของคลองอู่ตะเภา โดยน้ำได้ไหลเข้าท่วมอำเภอสะเดา คลองหอยโข่ง และกำลังหนุนเข้าสู่เขตเมืองหาดใหญ่เพิ่มขึ้น
ด้าน ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ระบุว่า ช่วงวันที่ 23–25 พฤศจิกายนนี้ พื้นที่จังหวัดสงขลายังคงมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มต่ำและเชิงเขา ส่วนช่วงวันที่ 26–29 พฤศจิกายน มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือจะอ่อนกำลังลง แต่ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องบางแห่ง ทำให้ต้องเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ด้านความเสียหาย พบว่ามีบ้านเรือนพังเสียหายทั้งหลัง 1 หลัง บางส่วน 3 หลัง สถานที่ราชการเสียหาย 1 แห่ง โรงเรียน 7 แห่ง วัด 5 แห่ง ถนนท้องถิ่นและทางหลวงรวมกว่า 12 สาย ได้รับผลกระทบ รวมถึงพื้นที่เกษตรเสียหายจำนวนมาก
จังหวัดสงขลาได้เร่งนำกำลังทุกภาคส่วนลงช่วยเหลือประชาชนแบบเต็มกำลัง มีการตั้ง โรงครัวพระราชทาน 2 แห่ง ในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ สนับสนุนเครื่องสูบน้ำรวม 86 เครื่อง เรือท้องแบน 44 ลำ เรือยาง 21 ลำ และรถยกสูง 83 คัน เพื่อใช้ในการอพยพและขนย้ายประชาชนจากพื้นที่น้ำท่วมหนัก โดยเฉพาะในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ นอกจากนี้ หน่วยงานภาครัฐ ทหาร ปภ. อปท. มูลนิธิฯ และเครือข่ายจิตอาสา ได้ร่วมกันแจกจ่ายข้าวกล่อง น้ำดื่ม และถุงยังชีพอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการอำนวยความสะดวกด้านจราจร การขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง และสนับสนุนกระสอบทรายให้แก่ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง
นายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้ยังคงต้องเฝ้าระวังติดตามปริมาณน้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะคลองอู่ตะเภา ซึ่งเป็นคลองสายหลักของเมืองหาดใหญ่ ที่ระดับน้ำยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายพื้นที่ในอำเภอหาดใหญ่และพื้นที่รอบข้างมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมสั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งระดมกำลัง เครื่องจักร และยุทโธปกรณ์ลงพื้นที่ทันทีเพื่อช่วยเหลือประชาชน
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด