เด็กน้อยเพิ่งเกิดได้ 2 วัน เสียชีวิต หลังมีอาการติดเชื้อ ยายเล่าหลานอาการแย่ ตั้งแต่ตอนกลางดึก พอไปเคาะเรียกพยาบาลไม่มีใครออกมาดู แถมห้องยังล็อก
ข่าวสังคม - โซเชียล

เด็กน้อยเพิ่งเกิดได้ 2 วัน เสียชีวิต หลังมีอาการติดเชื้อ ยายเล่าหลานอาการแย่ ตั้งแต่ตอนกลางดึก พอไปเคาะเรียกพยาบาลไม่มีใครออกมาดู แถมห้องยังล็อก

วานนี้ (8 พ.ย. 68) น.ส.กัญชนา ได้ออกมาเปิดเผยว่า หลานอายุเพียง 2 วัน คลอดที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่ อำเภอกาบัง จังหวัดยะลา ได้เสียชีวิตลงอย่างน่าสลด หลังมีอาการผิดปกติและถูกส่งต่อไปยังโรงพยาบาลยะลา เชื่อว่าสาเหตุมาจากการที่บุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลดังกล่าวขาดความใส่ใจและละเลยต่ออาการของเด็ก

น.ส.กัญชนา เล่าเหตุการณ์ว่า ลูกสาวได้คลอดลูกเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2568 ที่โรงพยาบาลแห่งนี้ เวลา 14.30 น. โดยเป็นการคลอดที่ปกติ และเด็กกินนมได้ดี ต่อมาน้องได้รับวัคซีน และเริ่มมีอาการไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส ตนเองซึ่งเป็นยายได้ช่วยเช็ดตัวจนไข้ลดลง แต่น้องเริ่มไม่กินนมและไม่ถ่าย

ตกดึกพ่อของเด็กพบว่าน้องอาเจียนออกมาเป็น สีน้ำตาลปนเขียว จึงพยายามไปเรียกพยาบาล แต่พบว่าประตูห้องพักพยาบาล ถูกล็อกจากด้านใน ทำให้ไม่มีใครออกมาดูแล โดยยายตั้งข้อสังเกตว่า ในโรงพยาบาลไม่มีบุคลากรทางการแพทย์อยู่เลยหรือไม่

เช้าวันที่ 31 ต.ค. แม่ของเด็กได้แจ้งอาการอาเจียนให้แม่บ้านของโรงพยาบาลทราบ เมื่อคุณยายไปถึงตอน 7.00 น. ได้พาน้องไปหาพยาบาล เนื่องจาก ท้องป่อง อ่อนเพลีย และไม่ตอบสนอง พยาบาลได้ทำการสวนก้นและเจาะเลือดตรวจน้ำตาลแต่ยังไม่พบความผิดปกติในขณะนั้น หลังจากพยาบาลให้แม่ของเด็กกลับไปทำตามคำแนะนำเพื่อลดอาการท้องอืดที่เตียง อาการของน้องกลับทรุดหนักลงอย่างรวดเร็ว เบ้าตาเหลือง ปากดำคล้ำ และตัวซีดเหลืองไปหมด เมื่อแม่รีบพาไปหาพยาบาลอีกครั้ง คราวนี้เจ้าหน้าที่จึงเริ่มตกใจและชุลมุนกัน และกว่าโรงพยาบาลแห่งนี้จะดำเนินการส่งต่อเด็กไปยังโรงพยาบาลยะลา ต้องใช้เวลานานตั้งแต่ 9 โมงเช้าจนถึงเที่ยง เพื่อรอผลเลือดและหนังสือ ซึ่งทำให้การส่งตัวล่าช้า

เมื่อไปถึงโรงพยาบาลยะลา ห้องฉุกเฉินได้แจ้งว่า น้องช็อกขั้นวิกฤตไปแล้ว มาไม่ทัน แพทย์ที่โรงพยาบาลยะลาแจ้งว่า เด็กมีอุจาระในลำไส้ และ มีน้ำคร่ำเต็มช่องท้อง รวมถึง ติดเชื้ออย่างรุนแรง ซึ่งสอดคล้องกับอาการท้องอืดและไม่ถ่ายที่มีมาก่อนหน้านี้ แพทย์ได้พยายามรักษาอย่างเต็มที่ แต่ร่างกายของเด็กไม่ตอบสนองไตเริ่มวาย จนกระทั่งทารกน้อยได้เสียชีวิตลงอย่างสงบ

หลังการเสียชีวิตของเด็ก ทางผู้อำนวยการโรงพยาบาลแห่งนี้และบุคลากรได้เข้าพบกับครอบครัว ซึ่งหัวหน้าพยาบาลชายได้ให้เหตุผลว่า ที่ล็อกประตูเพื่อความปลอดภัยของพยาบาล เนื่องจากมีแต่ผู้หญิง ซึ่งยายได้โต้แย้งว่า หากเป็นเช่นนั้น โรงพยาบาลมีมาตรการอื่นใดในการติดต่อจากคนไข้หรือไม่ และการที่ไม่มีใครได้ยินเสียงเคาะประตูในตอนกลางคืนก็แสดงถึงการไม่ใส่ใจคนไข้ คุณยายยังยืนยันว่าน้องมีไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียสจริง แม้พยาบาลจะแย้งว่าไม่มี โดยคุณยายเป็นผู้วัดไข้ด้วยตัวเอง

ยาย ระบุว่า ทาง ผอ. และพยาบาลยอมรับผิดทุกอย่าง แต่หัวหน้าพยาบาลชายพยายามบ่ายเบี่ยง โดยอ้างว่าเป็นเหตุการณ์กะทันหัน และพยายามยื่นเรื่องตามมาตรา 41 เพื่อขอค่าชดเชย โดยบอกว่าจะให้รัฐบาลเยียวยา ซึ่งคุณยายมองว่าเป็นการดำเนินการที่ไม่แสดงความสลดใจ และไม่ได้เป็นการยอมรับผิดจากโรงพยาบาลโดยตรง

น.ส.กัญชนา ยืนยันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาจากการละเลยของบุคลากรทางการแพทย์ ไม่ใช่ความผิดของคนไข้เอง จึงต้องการให้โรงพยาบาลแห่งนี้ออกมารับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด ปัจจุบันได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ ศูนย์ดำรงธรรม แล้ว เพื่อให้มีการเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนและพิจารณาหาผู้รับผิดชอบต่อไป