วันที่ 29 ตุลาคม 2568 กลายเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจ หลังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยผลตรวจ ยาดมสมุนไพร หงส์ไทย สูตร 2 พบว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไม่ผ่านมาตรฐานการทดสอบ เนื่องจากมีการปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์
ก่อนหน้านี้ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) วิทยาเขตหาดใหญ่ ได้เผยแพร่คลิป Science Facts ยาดมสมุนไพรทำให้เชื้อราขึ้นปอดได้จริงหรือไม่ ผ่านช่องทางออนไลน์ พร้อมระบุข้อความเตือนว่า
รู้หรือไม่? ยาดมสมุนไพรที่เราใช้กันทุกวัน อาจกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อราโดยไม่รู้ตัว! แค่เปิดปิดบ่อย ลืมปิดฝา หรือเก็บไว้ในที่ชื้น ก็เสี่ยงต่อการปนเปื้อนเชื้อราที่มองไม่เห็น และอาจส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจได้ โดยเฉพาะผู้สูงอายุหรือผู้ที่ภูมิคุ้มกันต่ำ
ผศ.ดร.ลักขณา กัณหะยูวะ วิงก์ฟิลด์ จากหลักสูตรจุลชีววิทยา ให้ข้อมูลว่า ยาดมสมุนไพรที่เก็บในที่ชื้นมีโอกาสปนเปื้อนเชื้อราจากอากาศ หรือจากการเปิดปิดบ่อยโดยไม่ปิดฝาให้สนิท อีกทั้งการสูดดมจากจมูกโดยตรงยังเป็นช่องทางเพิ่มโอกาสให้เชื้อราเจริญเติบโตภายในกระปุกได้
เธอกล่าวว่า หากพบว่าผลิตภัณฑ์สมุนไพรมีคราบสีขาว เส้นใย หรือผงสีขาว-ดำ ซึ่งอาจเป็นสปอร์ของเชื้อรา รวมถึงมีกลิ่นผิดปกติ เช่น กลิ่นเปรี้ยวหรือบูด ควรงดใช้ทันที
เชื้อราที่มักพบในยาดมสมุนไพรส่วนใหญ่คือกลุ่มแอสเปอร์จิลลัส และเพนนิซิลเลียม ซึ่งพบได้ทั่วไปในอากาศ เมื่อเปิดใช้ยาดมบ่อยและเก็บในที่ชื้นจะเพิ่มความเสี่ยงในการเจริญของเชื้อรา แม้การสูดดมในปริมาณเล็กน้อยร่างกายสามารถขับออกได้ แต่หากได้รับสปอร์อย่างต่อเนื่องอาจทำให้เกิดอาการภูมิแพ้หรือปัญหาระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคปอด หรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ
สำหรับระยะเวลาในการใช้งานยาดมสมุนไพรขึ้นอยู่กับความถี่ในการเปิดใช้ หากต้องการความปลอดภัย ไม่ควรใช้ยาดมชนิดนี้เป็นเวลานานเกินไป และควรตรวจสอบวันหมดอายุที่ระบุบนฉลากทุกครั้ง
เมื่อเปรียบเทียบกับยาดมชนิดน้ำ พบว่ายาดมสมุนไพรมีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนเชื้อรามากกว่า เนื่องจากส่วนผสมมักเป็นสมุนไพรอบแห้ง เช่น การบูร พิมเสน หรือรากไม้ ซึ่งดูดความชื้นได้ง่ายและเป็นแหล่งเพาะเชื้อราได้ดี ขณะที่ยาดมชนิดน้ำมักผสมเมนทอลหรือแอลกอฮอล์ ซึ่งช่วยยับยั้งเชื้อราได้ระดับหนึ่ง แต่หากเก็บในที่ชื้นหรือเปิดใช้บ่อยครั้งก็ยังมีโอกาสปนเปื้อนเช่นกัน