กระจ่างเเล้ว! ทนายนรเศรษฐ์ เปิดข้อกฎหมาย กรณีเปลี่ยนชื่อผู้รับผลประโยชน์ มูลนิธิกันจอมพลัง
ข่าวสังคม - โซเชียล

กระจ่างเเล้ว! ทนายนรเศรษฐ์ เปิดข้อกฎหมาย กรณีเปลี่ยนชื่อผู้รับผลประโยชน์ มูลนิธิกันจอมพลัง

กรณีที่มีการเผยแพร่เอกสารข้อบังคับของ มูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้ ซึ่งระบุว่า หากมูลนิธิต้องเลิกกิจการ ทรัพย์สินทั้งหมดที่เหลืออยู่จะตกเป็นของ มูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในสังคมออนไลน์ ถึงความเชื่อมโยงทางการเมืองระหว่างสองมูลนิธิ

ต่อมา กัน จอมพลัง ผู้ก่อตั้งมูลนิธิ ได้ออกมาชี้แจงว่า ข้อบังคับดังกล่าวเป็นเพียงเอกสารเดิมที่ใช้ในการจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ และขณะนี้ได้ สั่งการให้ดำเนินการเปลี่ยนชื่อผู้รับผลประโยชน์ในกรณีเลิกมูลนิธิแล้ว เพื่อความโปร่งใสและลดข้อครหาที่อาจเกิดขึ้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2568 นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายดัง ได้ออกมาเปิดข้อกฎหมายต่อกรณีดังกล่าว ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว นรเศรษฐ์ นาหนองตูม โดยระบุว่า การเปลี่ยนแปลงผู้รับทรัพย์สินของมูลนิธิ จาก มูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นมูลนิธิอื่น ถือเป็นการแก้ไขข้อบังคับของมูลนิธิ

ตามข้อบังคับของมูลนิธิในข้อ 38 ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าอำนาจในการแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับ เป็นอำนาจของที่ประชุมคณะกรรมการเท่านั้น

1. การประชุมต้องมีกรรมการเข้าร่วม ไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนกรรมการทั้งหมด

2. มติอนุมัติให้แก้ไขต้องได้รับคะแนนเสียง ไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของกรรมการที่เข้าร่วมประชุม

ภาพจาก เฟซบุ๊ก นรเศรษฐ์ นาหนองตูม

ดังนั้น อำนาจนี้จึงเป็นของที่ประชุมคณะกรรมการอย่างแท้จริง ที่ปรึกษามูลนิธิไม่มีอำนาจแก้ไขเองได้

แม้ว่าผมจะไม่เคยรู้จักคุณกันเป็นการส่วนตัว และชื่นชมในหลายบทบาทที่เขาได้ช่วยผู้เสียหาย เหยื่อคดีอาญาให้ได้รับความเป็นธรรม แต่สิ่งที่ผมเขียนมาทั้งหมดนี้ คือการพูดตามหลักการและข้อกฎหมายที่ระบุในข้อบังคับของมูลนิธิเอง

หากผมเป็นคุณกัน และเชื่อมั่นโดยสุจริตใจว่าการจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ โดยกำหนดให้ทรัพย์สินเมื่อเลิกมูลนิธิจะตกเป็นของ มูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า นั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามเจตนารมณ์และหลักการที่ยึดถือ ผมจะไม่ลังเลหรือพยายามเปลี่ยนแปลงข้อบังคับ แต่จะเดินหน้าทำงานตามเป้าหมายของมูลนิธิต่อไปอย่างไม่หวาดหวั่น