ปู่น้องน้ำโขง เหยื่อจรวด BM-21 ฉะ สว.อังคณา หลังออกมาเห็นใจคนเขมร
ข่าวสังคม - โซเชียล

ปู่น้องน้ำโขง เหยื่อจรวด BM-21 ฉะ สว.อังคณา หลังออกมาเห็นใจคนเขมร

จากกรณีที่ น.ส.อังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา ออกมาแสดงความเห็นว่าการที่ กัน จอมพลัง นำเครื่องขยายเสียงไปเปิดเสียงเฮลิคอปเตอร์ เสียงเครื่องบิน F‑16 และเสียงผี เพื่อกดดันฝั่งกัมพูชา อาจเข้าข่ายละเมิดอนุสัญญาต่อต้านการทรมาน (CAT) นั้น

ล่าสุด ที่บ้านของนายสุธีร์ บุญแต่ง อายุ 60 ปี ชาวบ้าน ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นปู่ของ น้องน้ำโขง อายุ 8 ปี หนึ่งในผู้เสียชีวิตจากเหตุจรวด BM‑21 ของทหารกัมพูชายิงมาตกใส่บ้าน เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 2 ราย ได้แก่ น้องน้ำโขง (8 ปี) และนายบัณฑิต บุญแต่ง (34 ปี)

นายสุธีร์กล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับการกระทำของคุณกัน จอมพลัง เพราะการเปิดเสียงเกิดขึ้นบนแผ่นดินไทยของเรา และยกตัวอย่างเหตุการณ์ในอดีตว่าเสียงจากฝั่งกัมพูชา เช่นดนตรีจากคาสิโนหรือพลุ ก็เคยดังข้ามมาถึงหมู่บ้านโดยไม่เคยเป็นปัญหามาตลอดสิบยี่สิบปีที่ผ่านมา

ในฐานะครอบครัวที่สูญเสียน้องหลาน นายสุธีร์ตั้งคำถามถึง ส.ว.อังคณา ว่าได้ทราบเหตุการณ์นี้หรือไม่ และทำไมจึงไม่ออกมาแสดงความเห็นหรือเรียกร้องให้กัมพูชาเยียวยาในกรณีการสูญเสียชีวิตและความเสียหายของทรัพย์สิน แต่กลับออกมากังวลเรื่องการใช้เสียงที่เล็ดลอดไปถึงฝั่งกัมพูชา อีกทั้งเรียกร้องให้นักสิทธิมนุษยชนออกมาเรียกร้องให้กัมพูชารับผิดชอบต่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับประชาชนไทย

นายสุธีร์ยังเสนอว่า การใช้เสียงในยามวิกาลมีประโยชน์ช่วยปลุกให้กำลังทหารตื่นตัว และเน้นว่าตนต้องการเห็นปัญหาแนวชายแดนยุติในรุ่นนี้ ไม่อยากให้ขยายไปสู่รุ่นลูกหลาน จึงเรียกร้องให้สร้างแนวรั้วตลอด 800 กิโลเมตรและจัดการปัญหาให้สิ้นซาก เพื่อป้องกันการรุกรานด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ในอนาคต พร้อมทั้งแสดงความไม่ไว้วางใจต่อกัมพูชา และตำหนิกลุ่มนักสิทธิมนุษยชนที่ยังไม่ออกมาแสดงท่าทีในเรื่องการละเมิดอธิปไตยและการสูญเสียของชาวชายแดน