จากกรณีที่ กัน จอมพลัง ได้นำรถแห่เข้าไปเปิด เสียงหมาหอน บริเวณแนวชายแดน เพื่อสื่อถึงทหารกัมพูชาที่เสียชีวิตและถูกทิ้งร่างไว้ในสมรภูมิโดยไม่มีใครเคลื่อนย้ายกลับบ้านอย่างสมเกียรติ ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับฝ่ายกัมพูชา จนต้องพาคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) ลงพื้นที่เพื่อร้องเรียน
ล่าสุดเมื่อค่ำวานนี้ (11 ต.ค. 68) หลังกัมพูชานำคณะ IOT ลงพื้นที่ชายแดน เพื่อฟ้องว่าฝ่ายไทยเปิดเสียงหมาหอนสร้างบรรยากาศผีหลอก และรบกวนเด็กกับผู้สูงอายุในฝั่งกัมพูชา กัน จอมพลัง ได้ทำการแก้เกมทันที ด้วยการเปลี่ยนจากการเปิดเสียงหมาหอน มาเป็นการเปิด "เสียงสารคดี" เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ในยุคเขมรแดงฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก : กันจอมพลัง ช่วยสู้
สารคดีดังกล่าว ซึ่งมีการเปิดทั้งภาษาไทยและภาษากัมพูชา มีเนื้อหาที่ย้อนความหลังถึงเหตุการณ์ที่ชาวเขมรต้องอพยพหนีภัยการสู้รบและภัยฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เข้ามาขอหลบภัยพึ่งใบบุญในพื้นที่บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้วของประเทศไทย เพื่อเอาชีวิตรอด แต่ท้ายที่สุดชาวเขมรกลับไม่สำนึกบุญคุณและพยายามจะยึดครองผืนแผ่นดินไทย
กัน จอมพลัง ระบุว่า การเปิดสารคดีนี้เป็นการสื่อสารโดยตรงเพื่อให้คณะ IOT ได้รับฟัง และสะท้อนว่าคนไทยสอนให้รู้จักบุญคุณคน แต่ชาวเขมรกลับไม่สอนลูกหลานให้สำนึกในความช่วยเหลือและความเมตตาที่เคยได้รับจากไทย และเลือกที่จะเนรคุณ
กัน จอมพลัง กล่าวด้วยว่า การ ออกของ (เปิดเสียง) เพียง 2 คืน ทำให้ฝ่ายเขมรถึงกับดิ้นพล่าน ไปไม่เป็น และต้องวิ่งหาคนมาช่วย พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า กัมพูชาที่อ้างสิทธิมนุษยชน กลับใช้ผู้หญิงอุ้มเด็กมาเป็นโล่มนุษย์ให้ทหารหลบอยู่ด้านหลัง และยังมีการลอบกัดด้วยการวางทุ่นระเบิด เขาเชื่อว่าการที่ฝ่ายกัมพูชามีท่าที พล่าน ขนาดนี้ แสดงว่ามาถูกทางแล้ว และจะเพิ่มการปฏิบัติการในคืนที่ 3 ต่อไป
ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก : กันจอมพลัง ช่วยสู้
เรียบเรียงโดย สยามนิวส์