วันที่ 8 ตุลาคม 2568 มีรายงานจากพื้นที่บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ว่า บรรยากาศทวีความตึงเครียดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเหลือเวลาเพียง 2 วันก่อนถึงเดดไลน์วันที่ 10 ตุลาคม 2568 ที่จังหวัดสระแก้วกำหนดให้ผลักดันบุคคลชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่ทั้งสองแห่ง
ตั้งแต่ช่วงเช้า มีกลุ่มมวลชนจากหลายจังหวัดทยอยเดินทางไปยังบ้านหนองจานเพื่อแสดงพลังขับไล่และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ บางกลุ่มเตรียมปรุงอาหารให้กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ ขณะที่ที่บริเวณ บ้านเปรยจัน ซึ่งมีชาวกัมพูชาอาศัยอยู่ นายอุดม เรียเตร็ย ผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย ได้นำรถบัสขนคนที่เป็นเด็ก คนชรา คนพิการและผู้หญิง จากพื้นที่อื่นเข้ามา ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยกลุ่มดังกล่าวยังคงพักแรมในพื้นที่และมีการเดินทางเข้ามาสมทบอย่างต่อเนื่อง คาดว่ากลุ่มมวลชนจะเข้าพักจนถึง วันที่ 10 ตุลาคมเพื่อใช้เป็น โล่ห์มนุษย์
ชาวบ้านที่อ้างว่าถูกชาวกัมพูชายึดครองที่ดินระบุว่าต้องการให้ปัญหาจบลงภายในวันที่ 10 ตุลาคม โดยวิงวอนให้เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าไปมากกว่าชาวกัมพูชา พร้อมร้องขอให้ใช้อุปกรณ์ควบคุมฝูงชน เช่น รถฉีดน้ำ รถขังผู้ต้องหา แก๊สน้ำตาและปืนกระสุนยาง เพื่อให้ชาวกัมพูชาตระหนักว่าเจ้าหน้าที่จะลงมือจริง ชาวบ้านระบุว่า หากไม่มีการแสดงกำลังเช่นนั้น ชาวกัมพูชาอาจไม่ออกจากพื้นที่
ทั้งนี้ ชาวบ้านกล่าวว่าเริ่มมั่นใจในความจริงจังของกองกำลังรักษาความสงบ หลังเห็นแม่ทัพเข้าตรวจพื้นที่และประชุมเตรียมแผน รวมทั้งเตรียมกำลังเข้าปฏิบัติการจับกุม โดยชาวบ้านยินยอมปฏิบัติตามคำสั่งหรือให้ความร่วมมือทุกประการ
ด้าน นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น เปิดเผยว่า ในวันที่ 10 ตุลาคม กลุ่มตนซึ่งมีอดีตนายทหารยศนายพลจากทุกเหล่าทัพในฐานะประชาชนไทย จะไปรวมตัวบนถนนศรีเพ็ญ เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ แต่จะไม่เข้าไปในบริเวณพื้นที่ปฏิบัติการหรือขัดขวางการปฏิบัติ หากหลังวันที่ 10 ตุลาคม เจ้าหน้าที่ยังไม่ดำเนินการและปล่อยให้ชาวกัมพูชายังคงอาศัยตามปกติ กลุ่มดังกล่าวยืนยันว่าจะนำชาวบ้านและคนไทยที่พร้อม พร้อมเครื่องมือไม่ใช่อาวุธ เข้าไปรื้อถอนบ้านเรือนและไล่ชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่ เนื่องจากเห็นว่าเป็นผืนแผ่นดินของไทยและเชิญชวนคนไทยมาร่วมปฏิบัติการดังกล่าว
มีระบุเพิ่มเติมว่า เมื่อเวลา 14.00 น. นายกัน จอมพลัง ประธานมูลนิธิ กันจอมพลังช่วยสู้ ประกาศผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่าได้รับไฟเขียวจากกองทัพให้จัดทำรั้วคอนเทนเนอร์ด่วน ขนาดสูง 6 เมตร จำนวน 60 ตู้ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่บ้านหนองจาน ให้งานแล้วเสร็จภายในวันที่ 10 ต.ค. ด้วยงบประมาณ 3 ล้านบาท พร้อมเปิดรับการสนับสนุนจากสาธารณชน
แหล่งข่าวความมั่นคงในพื้นที่เผยว่ามีการระดมมวลชนจาก 3 พื้นที่ฝั่งกัมพูชา ได้แก่ ปอยเปต สวายจิก และโอวโจโร พื้นที่ละประมาณ 200 คน รวมประมาณ 600 คน ส่งเข้าไปยังบ้านหนองหญ้าแก้ว 300 คนและบ้านหนองจาน 300 คน เพื่อเสริมกำลังมวลชนที่มีอยู่เดิมและยืนเป็นแนวหน้า ใช้เป็นพยานหรือโล่ห์มนุษย์ ในการฟ้องร้องต่อชาตินานาชาติหากฝ่ายไทยลงมือปฏิบัติตามแผน