เมื่อเวลา 08.30 น. ของวันที่ 5 ตุลาคม 2568 พ.ต.ท.รังสรร พงษ์สุวรรณ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเหตุพระมรณภาพในลักษณะผูกคอ ภายในกุฏิเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่ง ตำบลบางพระ อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ภูริทัต บุญช่วย ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ทราบก่อนเดินทางไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลพุทธโสธรและเจ้าหน้าที่กู้ภัยฉะเชิงเทรา
บริเวณจุดเกิดเหตุภายในวัด มีประชาชนจำนวนมากยืนรอดูอยู่ด้านหน้ากุฏิเจ้าอาวาส พบว่าประตูกระจกมีร่องรอยการตัดออก โดยมีม่านสีเหลืองกั้นไว้ไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปภายใน ภายในกุฏิพบเจ้าอาวาส อายุ 63 ปี พรรษา 38 มรณภาพอยู่บริเวณเหล็กดัดด้านบน เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ช่วยกันตัดเชือกนำร่างลงมาให้แพทย์ตรวจสอบ เบื้องต้นไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการถูกทำร้าย พบเพียงยารักษาโรคประจำตัวหลายชนิด เช่น ยาความดัน ยาไขมัน และยาแก้ปวด
จากการตรวจสอบเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่พบเอกสารกรมธรรม์ประกันชีวิตจำนวน 4 ฉบับ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และเตรียมส่งร่างผู้มรณภาพไปผ่าชันสูตรโดยละเอียดที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ องครักษ์ จังหวัดนครนายก เพื่อหาสาเหตุการมรณภาพที่แท้จริง ก่อนจะส่งมอบร่างให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนา
พระลูกวัดให้ข้อมูลว่า หลวงพ่อมีอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้ามานานเกือบ 1 ปี ซึ่งคนขับรถ ไวยาวัจกร และพระลูกวัดต่างรับรู้ แต่หลวงพ่อไม่ยอมไปพบแพทย์ รุ่งเช้าวันเกิดเหตุ หลวงพ่อลงจากกุฏิไปหาพระลูกวัด บอกให้ช่วยกันดูแลวัดให้ดี ก่อนจะพูดว่าปวดท้องและจะไม่ทำวัตรเช้าวันนี้ จากนั้นจึงเดินกลับไปยังกุฏิของตน
ต่อมาในช่วงสาย ลูกศิษย์และคณะกรรมการวัดเดินทางมาวัดตามที่หลวงพ่อนัดประชุมเพื่อเตรียมงานทอดกฐิน แต่เมื่อเรียกหาหลวงพ่อกลับไม่มีเสียงตอบรับ โทรศัพท์ก็ไม่รับสาย พระลูกวัดและคณะกรรมการจึงช่วยกันใช้คีมตัดเหล็กพังประตูกระจกเข้าไปดู พบว่าหลวงพ่อได้มรณภาพแล้วภายในกุฏิ