เปิดภาพล่าสุดวัดโสธรฯ ทั้งพระสงฆ์ทั้งคนงานเงียบเหงามาก
ข่าวสังคม - โซเชียล

เปิดภาพล่าสุดวัดโสธรฯ ทั้งพระสงฆ์ทั้งคนงานเงียบเหงามาก

วันที่ 24 ก.ย.68 เวลา 13.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเดินทางมาทำบุญของพุทธศาสนิกชน ภายในบริเวณวัดโสธรวรารามวรวิหาร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลก ที่เคยมีผู้คนเต็มแน่นพลุกพล่านไปทั่วบริเวณทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติแทบทุกวันในอดีต และหนาแน่นมากที่สุดในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์รวมถึงวันหยุดนักขัตฤกษ์นั้น ปัจจุบันพื้นที่ภายในบริเวณวัดหลายจุดกลับมีแต่ความว่างเปล่า โดยมีผู้คนเข้ามาทำบุญอย่างประปรายในบริเวณพื้นที่โซนปิดทองและขอพร จุดนมัสการกราบไหว้ต่อองค์หลวงพ่อโสธรเท่านั้น

จนทำให้ในบางจุด จนท.ของทางวัดถึงกับนั่งหลับรอการทำหน้าที่ เช่น คนงานที่คอยดูแลเก็บดอกไหม้ไหว้พระ เนื่องจากมีดอกไม้วนเวียนเข้ามาให้เก็บออกไปน้อยมาก รวมถึงพระสงฆ์ที่บริเวณจุดรับถวายสังฆทานภายในศาลาโดมตักบาตรพระร้อย ที่นั่งรอคอยญาติโยมเข้ามาทำบุญ ณ ที่จุดรับถวายสังฆทานจนถึงขั้นเผลองีบจำวัดไปชั่วขณะ เนื่องจากในวันนี้มีพุทธศาสนิกชนเดินทางเข้ามาทำบุญน้อยมาก

ซึ่งตรงกับบรรยากาศภาพของผู้คนที่เดินทางเข้ามาทำบุญยังที่วัดโสธร และได้ไลฟ์สดรีวิวพาเที่ยว ที่เห็นผู้คนอย่างบางตา ถือเป็นข้อมูลที่ตรงกันกับผู้สื่อข่าวในพื้นที่ และยังเป็นข้อมูลที่ตรงกันกับอินฟลูเอนเซอร์ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด และได้มีการเดินไลฟ์สดหรือทำคลิปวีดีโอลงสู่สื่อโซเชียล ที่พูดถึงบรรยากาศของผู้คนที่ลดน้อยหดหายไปจากวัดโสธร อย่างน่าใจหาย เช่น ช่องของยูทูปเบอร์ ดอกจาน พาเลาะ หรือ Dok Jaan on tour

ที่ได้บรรยายให้เห็นถึงความแตกต่างของบรรยากาศผู้คนที่เคยเดินทางเข้ามาทำบุญภายในวัด ที่ลดน้อยลงจากในอดีตมาก รวมถึงการบรรยายถึงบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่นั่งเหงาหงอยรอคอยลูกค้าจนหลับไป พร้อมทั้งยังตั้งข้อสังเกตถึงสาเหตุ ว่า อาจจะเกิดขึ้นจากปัญหาการสู้รบชายแดน หรือปัญหาด้านเศรษฐกิจปัจจุบันรวมถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ จนเป็นกระแสด้านลบในวงการพระสงฆ์

ขณะเดียวกันเมื่อวานนี้ (23 ก.ย.68) ระหว่างที่นายสันติ รังษิรุจิ ผู้ว่าราชการ จ.ฉะเชิงเทรา เดินทางมาร่วมในงาน ผู้ว่าแปดริ้วพบสื่อมวลชน ที่ร้านกาแฟทับเผยด้านหน้าเรือนจำ จ.ฉะเชิงเทรา ได้กล่าวต่อผู้สื่อข่าวขณะถูกสอบถามถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการตรวจสอบข้อเท็จจริง ของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีพฤติกรรมของเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 294/2568 ลงวันที่ 12 ก.ย.68 โดยนายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ในขณะนั้น ว่ามีผลการตรวจสอบและความคืบหน้าเป็นอย่างไรบ้าง

โดยนายสันติ ได้กล่าวต่อผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้ยังสอบไม่แล้วเสร็จ เพราะยังสอบได้ไม่ครบจึงยังตอบอะไรไม่ได้ ซึ่งจะต้องสอบทั้งผู้ร้องและผู้ถูกร้องให้ครบก่อน และจะต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งคู่ โดยจะสอบแต่เพียงข้างเดียวไม่ได้ เพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นใส่ร้าย ขณะนี้กำลังดำเนินการเรียกพยานมาและจะทำให้กระจ่างให้เร็วที่สุด เพราะว่าขณะนี้กระทบต่อเศรษฐกิจของ จ.ฉะเชิงเทรา มาก ต้องใจเย็นๆ จะรีบร้อนก็ไม่ได้ เพราะเดี๋ยวหากสรุปผิดพลาดมันจะยุ่งกันไปเลย

หรือถ้ามีข้อมูลอะไรช่วยส่งมาให้ยังที่ตนเองก็ได้ ไม่ว่าฝ่ายใหนทั้งสองฝ่ายก็รับฟังหมด เพื่อนำมาประกอบเป็นข้อมูล แต่หากจะถามว่าผลเป็นอย่างไรนั้นยังไม่ทราบ เพราะผลยังสอบไม่เสร็จ และยังให้ข้อมูลอะไรตอนนี้ไม่ได้ ส่วนการสอบจะแล้วเสร็จนานแค่ไหนนั้น อยู่ที่พยานที่เราเรียกไปแล้วเขามาให้ปากคำหรือไม่ เพราะบางรายในโซเชียลนั้นอยู่ต่างจังหวัดก็มี เมื่อเรียกไปจะมาหรือไม่มาบางรายเลื่อนไป 3 วันก็มี และตามคำสั่งเขาให้เวลาตน 30 วันก่อน จึงพยายามที่จะทำให้อยู่ในกรอบ

ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ว่าแนวโน้มจะเป็นอย่างไร เพราะตอนนี้กำลังสอบอยู่ ตามที่ได้บอกไปแล้วว่าจะต้องสอบทั้ง 2 ฝ่ายเพื่อความยุติธรรม ซึ่งผู้ร้องอ้างอย่างนี้ ผู้ถูกร้องจะตอบอย่างไร ตามน้ำหนักหลักฐานแต่ก็อยากทำให้เร็วเช่นเดียวกัน เพราะส่งผลกระทบมาก ขณะนี้ขับรถผ่านหน้าวัดโสธรฯ รถก็ไม่ค่อยติดแล้ว โดยที่เราไม่ได้เห็นใจแต่วัดอย่างเดียว เราก็ยังเห็นใจคนค้าขายหน้าวัดด้วย และยังกระทบไปถึงยังคนเลี้ยงไก่ไข่ คนทำอาหารและร้านอาหารใน จ.ฉะเชิงเทรา ด้วย เพราะซบเซาลงเยอะมาก แต่ก็ต้องทำให้กระจ่างและให้ความเป็นธรรมต่อทั้ง 2 ฝ่าย

เพราะหลังจากคนเดินทางมาไหว้พระแล้ว ก็ต้องพากันไปหากินข้าวหรือไปท่องเที่ยวกันต่อ ยังที่ อ.คลองเขี่อน หรือ อ.บางคล้า ซึ่งเกี่ยวพันกันไปหมด แต่จะทำให้รวดเร็วก็ไม่ได้ หากสรุปผิดพลาดไปก็ไม่ได้ โดยมีผู้สื่อข่าวบางรายยังได้สอบถามไปถึงยังเรื่องของการบูรณะพระอุโบสถ และยอดฉัตรทองคำของพระอุโบสถด้วย ทางนายสันติ ได้ตอบว่าจะสอบแต่เฉพาะประเด็นที่ถูกร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องสีกาและทรัพย์สิน โดยเขาร้องอะไรมาก็ต้องสอบไปตามนั้น ส่วนประเด็นอื่นที่ถูกสงสัยนั้น จะไปเปิดประเด็นในทุกเรื่องนั้นไม่ได้

เมื่อถูกถามว่ากรณีเปลี่ยน รมต.ชุดใหม่แล้วจะมีผลต่อการสอบข้อเท็จจริงหรือไม่นั้น นายสันติ ตอบว่ายังไม่ทราบว่าจะมีผลหรือไม่ แต่ข้อเท็จจริงที่ถูกร้องในสื่อต้องตอบให้กระจ่าง เพราะเป็นเรื่องของการตอบในประเด็นนี้ โดยหลักฐานที่พบส่วนมากจะเป็นข้อความแชทไลน์แชทในโซเชียล คือ อะไรที่ยังไม่กระจ่างก็อย่าเพิ่งนำไปลงข่าว เดี๋ยวคนจะยิ่งไม่มากัน นายสันติ ตอบระหว่างที่ถูกกลุ่มสื่อรุมซักถาม

ผู้สื่อข่าวจังหวัดฉะเชิงเทรา รายงาน