ทนายอนันต์ชัย เปิดหลักฐานเด็ดพระวัดดัง จ.ปทุมธานี โอนเงินให้สีกากว่า 12 ล้าน แถมฟอกเงินข้ามประเทศ
ข่าวสังคม - โซเชียล

ทนายอนันต์ชัย เปิดหลักฐานเด็ดพระวัดดัง จ.ปทุมธานี โอนเงินให้สีกากว่า 12 ล้าน แถมฟอกเงินข้ามประเทศ

เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 68 ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม ได้ออกมาโพสต์ข้อความสุดอึ้ง หลังรับการร้องเรียนจากสีกาชาวไทยที่พำนักอยู่เยอรมนี กล่าวหาพระระดับเจ้าอาวาสวัดดังในจังหวัดปทุมธานี มีพฤติกรรมยักยอกเงินวัดและฟอกเงิน พร้อมลั่น ธำรงไม่ทำลายพระพุทธศาสนา

โดยเจ้าของโพสต์ ระบุข้อความว่า พระวัดดังในจังหวัดปทุมธานี ยักยอกเงินวัด ฟอกเงิน เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2568 มูลนิธิทนายกองทัพธรรม ได้รับหนังสือร้องเรียนจากสีกาท่านหนึ่งที่พำนักอยู่ที่ประเทศเยอรมนี ร้องเรียนว่า พระดังรูปหนึ่งระดับเจ้าอาวาส ในจังหวัดปทุมธานี มีพฤติกรรมยักยอกเงินวัดฟอกเงิน จึงได้ส่งหลักฐานมาให้ตรวจสอบ

โดยมูลนิธิทนายกองทัพธรรม ได้ตรวจสอบแล้ว น่าเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง กล่าวคือ มีการโอนเงินของวัดไปให้สีกาคนดังกล่าวที่ธนาคารกรุงไทย ในประเทศไทย จำนวน 4 ครั้ง

1.ครั้งที่ 1 จำนวน 6,000,000 บาท

2.ครั้งที่ 2 จำนวน 2,700,000 บาท

3.ครั้งที่ 3 จำนวน 2,000,000 บาท

4.ครั้งที่ 4 จำนวน 1,500,000 บาท

รวมเป็นเงิน 12,200,000 บาท

หลังจากนั้น สีกาคนดังกล่าวซึ่งอยู่ที่ประเทศเยอรมนี มีการโอนเงินจากธนาคารในประเทศไทย ไปยังธนาคารในประเทศเยอรมนี จำนวน 27 ครั้ง และโอนเงินในประเทศเยอรมนี อีก 2 ครั้ง เป็น 29 ครั้ง แล้วมีการโอนเงินเข้าบัญชีองค์กรของพระรูปดังกล่าว ที่เปิดไว้ในประเทศเยอรมนี หลังจากนั้นกลุ่มพระร่วมกันบีบบังคับกดดันให้สีกาคนดังกล่าวโอนเงินจากองค์กรเข้าบัญชีส่วนตัวของพระที่เปิดในประเทศเยอรมนี

นอกจากนี้ พฤติกรรมดังกล่าวของพระดัง เป็นการใช้องค์กรในประเทศเยอรมนี เป็นศูนย์กลางฟอกเงินที่ยักยอกมาจากวัดจนเธอเองถูกทางการประเทศเยอรมนีกล่าวหาว่าเป็นผู้ต้องสงสัยว่าฟอกเงินร่วมกับพระดังรูปนี้ ภายหลังสีกาคนดังกล่าวเริ่มระแคะระคาย ไม่ต้องการทำงานให้กับพระรูปดังกล่าวอีก จึงทำให้พระรูปดังโกรธ จึงฟ้องร้องเธอทั้งคดีแพ่งและคดีอาญาที่ประเทศเยอรมนีด้วย ซึ่งตัวเธอเองก็ถูกหลอกใช้ทำงานให้เช่นเดียวกัน

ยังพบพยานหลักฐานการที่พระรูปดัง ได้รับเงินบริจาคจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่ไม่ได้นำเข้าบัญชีวัดเป็นจำนวนมากอีกด้วย อีกทั้งทราบว่าพระรูปดังยังมีความสัมพันธ์สนิทสนมกับสีกาท่านหนึ่งอย่างออกหน้าออกตา พฤติการณ์ดังกล่าว น่าจะเข้าข่ายการกระทำความผิดฐานเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ ตาม ปอ.มาตรา 147, 157 และเข้ามูลฐานความผิดฐานฟอกเงินอีกด้วย

เรื่องนี้ทราบว่าได้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษผู้กระทำความผิด และผู้ร่วมกระบวนการไปยัง บก.ปปป., ป.ป.ช., ปปง. แล้ว เมื่อเรื่องมาถึงมูลนิธิทนายกองทัพธรรมแล้ว เงียบไม่ได้นะครับ มูลนิธิทนายกองทัพธรรม ธำรงไม่ทำลายพระพุทธศาสนา