ชื่อซ้ำ-สิทธิ์หาย! ชาวนาร้องหน่วยงานรัฐตรวจสอบด่วน หวั่นเสียเปรียบ
ข่าวสังคม - โซเชียล

ชื่อซ้ำ-สิทธิ์หาย! ชาวนาร้องหน่วยงานรัฐตรวจสอบด่วน หวั่นเสียเปรียบ

วันที่ 7 กันยายน 2568 นายขจรศักดิ์ อายุ 52 ปี ชาวนาบ้านโคกยาง ตำบลอีสานเขต อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ร้องเรียนต่อหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังพบปัญหาการลงทะเบียนซ้ำซ้อนในโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวไร่ละ 1,000 บาท ตามนโยบายของรัฐบาล

นายขจรศักดิ์ ระบุว่า ตนได้ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ในแปลงนาขนาด 8 ไร่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ทั้งหมด 16 ไร่ โดยอีก 8 ไร่ได้ถูกนำไปจำนองไว้ โดยแปลงนาที่ลงทะเบียนในปีนี้เป็นของญาติพี่น้อง ซึ่งตนได้เข้าไปทำนาเอง เนื่องจากก่อนหน้านี้ผู้ที่ทำนาในแปลงนี้คือสามีของนางจิราภา อายุ 62 ปี ซึ่งเป็นญาติ แต่ได้เสียชีวิตไปแล้ว ทำให้นางจิราภาไม่ได้ทำนาในปีนี้

อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการลงทะเบียนในระบบ กลับพบว่าชื่อนางจิราภายังปรากฏอยู่ในระบบในแปลงนาเดียวกัน ทำให้เกิดการลงทะเบียนซ้ำซ้อน นายขจรศักดิ์จึงขอให้หน่วยงานตรวจสอบและยกเลิกรายชื่อของนางจิราภาออกจากแปลงดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้ตนเองไม่ได้รับเงินช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาท ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายในการซื้อปุ๋ยและค่าเก็บเกี่ยว

จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า นางจิราภาได้ลงทะเบียนเกษตรกรไว้สองแปลง ได้แก่ แปลงขนาด 8 ไร่ ที่มีปัญหาซ้ำซ้อน และอีกแปลงขนาด 18 ไร่ ซึ่งนางจิราภาระบุว่าได้ทำนามาตั้งแต่ปี 2545 และมีการลงทะเบียนในทั้งสองแปลงมาโดยตลอด

นางจิราภาให้ข้อมูลว่า ที่ผ่านมาเธอและสามีได้ทำนาทั้งสองแปลงจริง และได้แจ้งลงทะเบียนกับระบบของรัฐตามที่เคยปฏิบัติ โดยใช้แอปพลิเคชัน ฟาร์มบุ๊ค ซึ่งในปีนี้ยังคงแจ้งทั้งสองแปลงเหมือนเดิม แต่ได้รับสิทธิ์เงินช่วยเหลือเฉพาะแปลงขนาด 18 ไร่เท่านั้น ส่วนแปลง 8 ไร่ที่มีปัญหานั้นยังไม่ได้รับเงินแต่อย่างใด และชี้แจงเพิ่มเติมว่า ไม่ทราบว่านายขจรศักดิ์จะมาทำนาในแปลงนี้ จึงแจ้งลงทะเบียนไปก่อน และยินดีจะแจ้งยกเลิกชื่อของตนในแปลง 8 ไร่

ทางด้านนายเพชร มีแสวง ผู้ใหญ่บ้านบ้านโคกยาง ให้ข้อมูลว่า ที่ผ่านมานางจิราภามีชื่อในระบบลงทะเบียนตลอด เพราะสามีเป็นผู้ทำนา แต่ในปีนี้ นายขจรศักดิ์นำเอกสารมายื่นลงทะเบียนแทน โดยยืนยันว่าเป็นผู้ทำนาจริง อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าสู่ระบบกลับพบว่ามีชื่อนางจิราภาลงทะเบียนไว้ก่อนหน้าแล้ว ทำให้เกิดปัญหาการลงทะเบียนซ้ำซ้อน จึงแจ้งไปยังสำนักงานเกษตรตำบลเพื่อดำเนินการตามขั้นตอน

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ได้ตรวจสอบข้อมูลในระบบเบื้องต้น พบว่านางจิราภามีการลงทะเบียนเกษตรกรในแปลงขนาด 8 ไร่ และ 18 ไร่จริง แต่ได้รับเงินช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาทเฉพาะแปลงขนาด 18 ไร่ ส่วนแปลงขนาด 8 ไร่ยังไม่ได้รับสิทธิ์ เนื่องจากมีปัญหาการลงทะเบียนซ้ำซ้อน

เจ้าหน้าที่ระบุว่า หากนางจิราภาทำการยกเลิกชื่อจากการลงทะเบียนในแปลง 8 ไร่ นายขจรศักดิ์จึงจะสามารถลงทะเบียนและได้รับเงินช่วยเหลือในแปลงดังกล่าวได้ โดยต้องดำเนินการผ่านกระบวนการประชาคมตามขั้นตอนของทางราชการ