วันที่ 20 สิงหาคม 2568 คณะ IOT ร่วมสังเกตการณ์ภาพรวมความเสียหาย รพ.พนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.สุรินทร์ หลังถูกกัมพูชาโจมตี พร้อมเปิดชุดวิดิโอ crying from the border เสียงร้องไห้จากคนชายแดน สื่อสารให้ได้รับทราบ มีเด็กเสียชีวิตและพื้นที่อีกจำนวนมากได้รับผลกระทบ
ขณะที่ พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้กล่าวสรุปถึงการที่กัมพูชาได้ละเมิด 3 ข้อหลัก ว่า เรื่องละเมิดที่ปรากฎอยู่ คือ
1. กัมพูชายังใช้อาวุธกับฝ่ายไทยอยู่ โดยเฉพาะ ทุ่นระเบิด หลังข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ซึ่งเป็นการละเมิดชัดเจน
2. การใช้โดรนบินเข้ามาในพื้นที่ ซึ่งต้องดูว่ามีการใช้โดรน หรือมีการเติมกำลังหรือไม่ โดยเฉพาะแนวชายแดนอย่างที่ช่องอานม้าเมื่อวานนี้ เช่นการมาทักท้วงต่างๆ และ
3. เรื่องการยั่วยุ ถือเป็นการบิดเบือนข่าวสาร ทำให้เกิดความขัดแย้ง มากกว่าการใช้อาวุธด้วยซ้ำ พลตรีวินธัย จึงย้ำว่า ให้ดูกรอบ 13 ข้อ และขอฝากให้ IOT ช่วยดู
โดยช่วงหนึ่ง พล.ต.ซัมซุล ริซัล บิน มูซา (Brigadier General Samsul Rizal bin Musa) ผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำประเทศไทย ได้สื่อสารกลับว่า วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ได้เดินทางมา เดี๋ยวจะมีการรายงานที่เป็นรูปธรรม เพื่อนำเรียนให้ทราบต่อไป และนำเรียนให้กับกองทัพไทย และกองทัพบกให้ทราบ โดยจะมีการระบุผ่านหลักฐาน 3 ข้อ คือ 1.การใช้ทุ่นระเบิด 2.เรื่องการใช้อากาศยานไร้คนขับ และ 3.การยั่วยุ และใช้ข้อมูลข่าวสารเท็จ ไม่ว่าจะเป็นแถลงการณ์ หรือโซเชียลมีเดีย ซึ่งจะเห็นได้จากการที่ไม่ใช่แค่ในโซเชียลมีเดียอย่างเดียว อย่างเมื่อวานมีการยั่วยุโดยใช้กำลังทหารเข้ามา ซึ่งก็เจอเหตุแบบนั้นจริง ๆ
บางช่วง ผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำประเทศไทย บอกว่า ไม่ได้จะปากหวาน แต่ทหารฝั่งนั้นไม่มีความเป็นมืออาชีพ ในขณะที่ทหารไทยมีขวัญกำลังใจดี เป็นสุภาพบุรุษ และมีความเป็นมืออาชีพอย่างมาก เรามาก็เห็นชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นโดยไม่ต้องตะโกนบอกใคร หรือไล่ใคร
พร้อมย้ำว่าคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว ไม่ได้มาเพื่อตัดสินใจว่าใครถูกหรือผิด แต่มาสังเกตการณ์ว่ามีการหยุดจริงอย่างแท้จริงหรือไม่ และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่อยู่แนวชายแดน
โดยระหว่างการบรรยายสรุป ตัวแทนทหารไทยได้ชี้แจงต่อว่า สำหรับเหตุการณ์ที่ช่องอานม้าเมื่อวานนี้ ทางฝ่ายกัมพูชา ได้ติดต่อมาขอโทษทาง IOT และแจ้งว่า ทหารกัมพูชารายนั้นเมา