เรียกได้ว่าฮือฮากันไปทั้งโซเชียลกับเรื่องราวของ 2 หนุ่มน้อยจากอำเภอลานกระบือ จังหวัดกำแพงเพชร ที่ตัดสินใจขับรถจักรยานยนต์ตาม GPS มุ่งหน้าไปหาสาวที่อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ หลังพูดคุยกันผ่านโซเชียล แต่กลับหลงทางไปถึงอำเภอนางรอง น้ำมันรถหมด โทรศัพท์แบตเตอรี่หมด ขณะที่ฝ่ายหญิงปิดเครื่องหนี ทำให้ทั้งคู่ตกอยู่ในสภาพลำบากกลางดึก
โชคดีที่มีพลเมืองดีพบเข้าจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นางรอง เข้าช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่เกรงว่าจะเกิดอันตรายจึงเปิดห้องประชุมให้พักค้างคืน พร้อมประสานกู้ภัยสยามเข้ามาช่วยดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายการเดินทางกลับ และแจ้งผู้ปกครองของเด็กทั้งสองให้ทราบ ก่อนส่งตัวกลับบ้านอย่างปลอดภัย
ล่าสุดได้มีการสัมภาษณ์ 2 หนุ่มดังกล่าว ที่บ้านหร่ายการ้อง หมู่ 1 ตำบลประชาสุขสันต์ อำเภอลานกระบือ จังหวัดกำแพงเพชร โดยมีนายสมศักดิ์ แสนประดิษฐ์ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง นายก อบต.ประชาสุขสันต์ ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำท้องถิ่นร่วมให้กำลังใจ
โดยนายปอย อายุ 15 ปี คนขับรถจักรยานยนต์ เล่าว่า วันเดินทาง เพื่อนได้ขอให้ตนช่วยพาไปหาแฟน ตนจึงตัดสินใจขับรถไปด้วยกันโดยไม่บอกทางบ้าน ตอนแรกคิดว่าไม่ไกล แต่พอไปถึงกลับเจอปัญหาน้ำมันหมด แบตโทรศัพท์หมด และติดต่อแฟนเพื่อนไม่ได้ จึงรู้สึกเคว้งคว้างมาก แต่โชคดีที่มีพลเมืองดีเข้ามาช่วยเหลือ
เจ้าตัวยังเล่าด้วยรอยยิ้มว่า ตอนที่ชาวบ้านบางคนสงสัยว่าตนเป็น ไส้ศึก หรือคนกัมพูชา ทำให้ตกใจไม่น้อย แต่เมื่อมองกระจกก็ยอมรับว่าสภาพตัวเองตอนนั้นก็เหมือนจริง ๆ จึงอยากขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น และขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยเหลือ รวมถึงขอบคุณพลังโซเชียลที่เป็นห่วงและให้กำลังใจอย่างล้นหลาม
ด้านครอบครัวของนายปอยเผยว่า รู้สึกตกใจมากที่หลานหายออกจากบ้านไปไกล ทำให้คิดไปต่าง ๆ นานา แต่เมื่อกลับมาก็โล่งใจและหัวเราะไปกับเหตุการณ์ พร้อมเตือนว่าไม่ควรทำเช่นนี้อีก
ด้านนายเฟ็กส์ อายุ 17 ปี เพื่อนที่เป็นต้นเรื่อง เปิดใจว่า ตนรู้จักและพูดคุยกับแฟนสาวชาวบุรีรัมย์ผ่านโซเชียลมาระยะหนึ่งแล้ว จึงตัดสินใจบอกเพื่อนว่าจะเดินทางไปหาแฟน จนกระทั่งไปถึงอำเภอนางรองแต่น้ำมันหมด รถไปต่อไม่ได้ โทรศัพท์แบตก็หมด จึงไม่สามารถติดต่อใครได้ กระทั่งชาร์จแบตและติดต่อแฟนสาวได้อีกครั้ง ซึ่งฝ่ายหญิงถึงกับร้องไห้และขอโทษ
สุดท้าย นายเฟ็กส์ กล่าวขอโทษครอบครัวและทุกคนที่เป็นห่วง พร้อมยอมรับว่าจะคิดให้รอบคอบกว่านี้ ส่วนครอบครัวเองไม่ได้ตำหนิ เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นว่าเป็นความคึกคะนองตามวัย และดีใจที่ลูกหลานปลอดภัยกลับบ้าน พร้อมย้ำเตือนว่าอย่าทำเช่นนี้อีก