เอาจริง! จับทุกราย ตำรวจปิดเกมแก๊งแข่งรถวิภาวดี จับกุม 36 ราย ยึดรถ 28 คัน
ข่าวสังคม - โซเชียล

เอาจริง! จับทุกราย ตำรวจปิดเกมแก๊งแข่งรถวิภาวดี จับกุม 36 ราย ยึดรถ 28 คัน

วันที่ 14 สิงหาคม 2568 ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ รายงานว่า พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ สว่างงาม ผบก.จร.พ.ต.อ.ณัฐพงษ์ เชื้อเดช รอง ผบก.จร.พ.ต.อ.พารินท  จันทร์เลิศ ผกก.2 บก.จร. พ.ต.ท.ดามพวร ทองอิ่ม รอง ผกก.งานศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดีรังสิต/ทางพิเศษ กก.2 บก.จร. และ พ.ต.ต.ภุชงค์ เม้าทุ่ง สว.งานศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดีรังสิต/ ทางพิเศษ กก.2 บก.จร. จับกุมผู้ต้องหา ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งสิ้น 36 ราย ผู้ใหญ่ (อายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป) รวม 9 ราย เด็กและเยาวชน (อายุต่ำกว่า 20 ปี) รวม 27 ราย พร้อมด้วยของกลาง รถจักรยานยนต์ 28 คัน

สืบเนื่อง สถานที่เกิดเหตุ วันที่ 15 มิถุนายน 2568  จุดรวมกลุ่มบริเวณสถานีเติมน้ำมัน ถนนวิภาวดีรังสิต หลังจากนั้นกลุ่มรถจักรยานยนต์ได้ออกจากสถานีเติมน้ำมัน ถนนวิภาวดีรังสิต ได้ขับขี่เข้าถนนวิภาวดีรังสิต(ขาออก) ผ่านบริเวณ 5 แยกลาดพร้าว (ขาออก), ผ่านบริเวณหน้าวัดเสมียนนารี(ขาออก), ผ่านแยกหลักสี่(ขาออก) , ผ่านหน้าตลาดใหม่ดอนเมือง (ขาออก), กลับรถสะพานกลับรถธูปะเตมีย์,ถนนวิภาวดีรังสิต(ขาเข้า) และหน้าท่าอากาศยานดอนเมือง และวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 จุดรวมกลุ่มบริเวณ ถนนวิภาวดีรังสิต(ขาออก) ผ่านหน้าโรงพยาบาลทหารผ่านศึก และหน้าสโมสรทหารบก แขวงสามเสนใน เขตพญไท กรุงเทพมหานคร โดยแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันพยายามแข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากหัวหน้าพนักงานจราจร และขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและความเดือดร้อนของผู้อื่น พฤติการณ์กล่าวคือ

ตามที่เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เวลา 01.56 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร งานศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดีรังสิต/ทางพิเศษ กก.2 บก.จร. ได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มวัยรุ่นรวมตัวกันบริเวณสถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่ง บนถนนวิภาวดีรังสิต ก่อนขับขี่รถจักรยานยนต์ด้วยความเร็วสูงและในลักษณะที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้ใช้เส้นทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เร่งดำเนินการสืบสวน พร้อมตรวจสอบภาพจาก กล้องวงจรปิด และพยานหลักฐานในพื้นที่เกิดเหตุ จนสามารถระบุตัวผู้กระทำผิดได้ ต่อมาในวันที่ 20 มิถุนายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาจำนวน 19 ราย แบ่งเป็นผู้ใหญ่ 3 ราย และเยาวชน 16 ราย พร้อมตรวจยึดรถจักรยานยนต์ของกลางจำนวน 13 คัน ซึ่งศาลได้ดำเนินการพิจารณาตัดสินแล้ว จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลติดตามจับกุมผู้กระทำผิดเพิ่มเติมอีก 13 ราย แบ่งเป็นผู้ใหญ่ 5 ราย และเยาวชน 8 ราย ในส่วนของผู้ใหญ่ 5 ราย ได้ถูกส่งฟ้องต่อศาลแขวงพระนครเหนือ เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 โดยศาลแขวงพระนครเหนือมีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุก 2 ปี แก้เป็นกักขัง 2 เดือน พร้อมปรับเงิน 10,000 บาท โดยให้รอลงอาญา 1 ปี คุมประพฤติ 1 ปี พร้อมริบรถจักรยานยนต์ของกลาง ส่วนเยาวชน 8 ราย ถูกส่งตัวไปยัง ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง โดยศาลมีคำสั่งให้ควบคุมพฤติกรรมในสถานพินิจ พร้อมยึดรถจักรยานยนต์เพิ่มเติมอีก 12 คัน

จากนั้น เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ศูนย์วิทยุได้รับแจ้งเหตุอุบัติเหตุบนถนนวิภาวดีรังสิต พบกลุ่มรถจักรยานยนต์จำนวน 7 คัน ขับขี่ด้วยความเร็วสูงเต็มทุกช่องทาง มีพฤติกรรมขับขี่หวาดเสียว ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น จนเกิดเหตุเฉี่ยวชนบริเวณหน้าสโมสรทหารบก จากการสืบสวนขยายผล เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 3 ราย และอยู่ระหว่างดำเนินการติดตามผู้กระทำผิดที่เหลือมาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดย เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2568 ศาลแขวงดุสิตมีคำพิพากษาลงโทษจำคุกผู้ต้องหา ทั้ง 3 ราย คนละ 1 เดือน โดยไม่รอลงอาญา พร้อมริบรถจักรยานยนต์ของกลาง

จนถึงปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้รวมทั้งสิ้น 36 ราย แบ่งเป็น ผู้ใหญ่ 9 ราย และเยาวชน 27 รายพร้อมตรวจยึดรถจักรยานยนต์ของกลางจำนวน 28 คัน ผู้ต้องหาได้รวมกลุ่มขับขี่ โดยใช้ถนนวิภาวดีรังสิตเป็นเส้นทางในการรวมกลุ่ม และมีพฤติกรรมพยายามแข่งรถในทาง โดยไม่ได้รับอนุญาตเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันเป็นผู้ขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตหรือทรัพย์สินของผู้อื่นและร่วมกันพยายามแข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาต

การดำเนินการดังกล่าว เป็นไปตามนโยบาย ถนนปลอดภัย วิภาวดีโมเดล ภายใต้การกวดขันวินัยจราจรอย่างเข้มงวดของงานศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดีรังสิต/ทางพิเศษ เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุ ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนในการใช้เส้นทางสัญจรอย่างปลอดภัยเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรขอยืนยันว่าจะดำเนินการป้องกัน และปราบปรามพฤติกรรมแข่งรถในทางและการขับขี่รถโดยประมาทอย่างต่อเนื่อง พร้อมขอความร่วมมือจากผู้ปกครองในการสอดส่องดูแลบุตรหลาน และจากประชาชนในการแจ้งเบาะแสเพื่อความปลอดภัยร่วมกันของสังคม

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ ทีมข่าว กรุงเทพมหานคร รายงาน